เมื่อก๊าซเรือนกระจก คือตัวการสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ในครัวเรือน ไฟป่า การปล่อยก๊าซมีเทน และการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล อย่างถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมาจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงการคมนาคมขนส่ง และรถโดยสารสาธารณะ
ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา รถโดยสารสาธารณะ อย่างเช่นรถบัสโดยสารนั้น จะมีสภาพเก่าและใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง จึงก่อให้เกิดผลกระทบต่อมลพิษทางอากาศเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบัน ภาครัฐ ภาคเอกชน ได้หันมาสนใจรถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle Bus : EV Bus) ที่ใช้พลังงานทดแทน อย่างพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงช่วยลดมลพิษทางอากาศ รวมทั้งลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ได้อีกด้วย
เพื่อให้การตอบสนองต่อรูปแบบการใช้พลังงานที่เปลี่ยนไป กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ (Energy Absolute) หรือ EA ได้พัฒนา “MINE BUS” รถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยแนวคิดที่ต้องการเพิ่มทางเลือกให้แก่กลุ่มยานยนต์สาธารณะ ที่สามารถช่วยลดการใช้พลังงานน้ำมัน ซึ่งเป็นตัวการที่สร้างมลภาวะทางอากาศ โดยออกแบบให้เป็นรถชานต่ำ เพื่อรองรับเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการที่ใช้รถวีลแชร์ สามารถขึ้น – ลงได้ง่าย ห้องโดยสารกว้างขวาง เว้นระยะห่างระหว่างเบาะได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังมีช่องเสียบ USB ไว้ให้บริการชาร์ตแบตโทรศัพท์ระหว่างการเดินทางด้วย ด้านสมรรถนะการขับเคลื่อนสามารถวิ่งได้อย่างต่อเนื่องในทุกสภาพถนน ทุกสภาพการจราจร และทุกสภาพอากาศ ได้มากถึง 300 กิโลเมตร ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารถ NGV ทั่วไปมากถึง 77% โดยปราศจากการสันดาปภายในที่ก่อให้เกิดมลพิษ
สำหรับโรงงานประกอบรถบัสโดยสารไฟฟ้า ของกลุ่ม EA คาดการณ์ว่า หลังจากโรงงานก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ จะมีกำลังในการผลิตรถบัสโดยสารไฟฟ้าอยู่ที่ปีละ 3,000 คัน โดยในปัจจุบันได้ประกอบรถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า “MINE BUS” แล้วเสร็จไปกว่า 100 คัน และจะทยอยส่งมอบได้ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ จึงนับเป็นนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่นอกจากจะสอดรับกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ และภาวะโลกร้อนอีกด้วย