รองนายกฯ สุชาติ ลงพื้นที่เขาใหญ่ ผลักดันอุทยานแห่งชาติ สู่มาตรฐานสากล ภายใต้นโยบาย “เที่ยวสุขใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน”

          รองนายกฯ สุชาติ ลงพื้นที่เขาใหญ่ ผลักดันอุทยานแห่งชาติ สู่มาตรฐานสากล ภายใต้นโยบาย “เที่ยวสุขใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน”
          วันที่ 5 ตุลาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ การให้บริการนักท่องเที่ยว การเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และภารกิจการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ รวมถึงตรวจเยี่ยมเส้นทางศึกษาธรรมชาติอารยสถาปัตย์ และสิ่งอำนวยความสะดวกในอุทยานแห่งชาติสำหรับผู้พิการ และรับฟังสรุปสถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนมอบนโยบายสำคัญ 9 ด้าน เพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดการอุทยานแห่งชาติให้ทัดเทียมระดับสากล ในฐานะที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศไทยและเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าอนุรักษ์มรดกโลกทางธรรมชาติ “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่”
          รองนายกฯ สุชาติ กล่าวว่า การที่ได้รับสนองพระบรมราชโองการเป็นรัฐมนตรีต่อเนื่องในคณะรัฐมนตรี 4 สมัย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พร้อมได้เน้นย้ำความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ และมอบแนวทางการยกระดับอุทยานแห่งชาติสู่มาตรฐานสากล 9 ด้าน ภายใต้นโยบาย “เที่ยวสุขใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน” ตั้งแต่การเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันปราบปรามด้วยเทคโนโลยี การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และคาร์บอนต่ำ การควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวตามขีดความสามารถในการรองรับ (Carrying Capacity) ไปจนถึงการเตรียมความพร้อมของศูนย์กู้ภัยอุทยานแห่งชาติทั้ง 7 แห่ง เพื่อดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล การพัฒนา “อารยสถาปัตย์” หรือการออกแบบที่เป็นมิตรกับทุกคน (Universal Design) ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้พัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้พิการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งห้องน้ำ ทางลาดชัน และที่จอดรถ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและสัมผัสกับความงามของธรรมชาติได้อย่างเท่าเทียม เพื่อส่งเสริมให้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ไปสู่การรับรองเป็นมรดกอาเซียนและมรดกโลกเพิ่มขึ้น พร้อมยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวตามหลัก ISO 13009 และ Green Destination
         นอกจากนี้ ยังได้ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี Smart Patrol มาใช้ในการลาดตระเวนป้องกันปราบปราม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาพื้นที่ป่า การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า โดยเฉพาะปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมาและนครนายก โดยได้ให้จัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อเฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มีส่วนร่วมในการจัดการที่ดินและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 โดยเน้นย้ำให้มีการบูรณาการกับกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งยังได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นให้ความสำคัญกับการดูแลสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แนวชายแดน และให้ปรับปรุงหน่วยพิทักษ์อุทยานในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาให้สามารถใช้เป็นบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในแนวหน้า

         “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

 

รองนายกฯ สุชาติ ลงพื้นที่เขาใหญ่ ผลักดันอุทยานแห่งชาติ สู่มาตรฐานสากล ภายใต้นโยบาย “เที่ยวสุขใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน”

รองนายกฯ สุชาติ ลงพื้นที่เขาใหญ่ ผลักดันอุทยานแห่งชาติ สู่มาตรฐานสากล ภายใต้นโยบาย “เที่ยวสุขใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน”

รองนายกฯ สุชาติ ลงพื้นที่เขาใหญ่ ผลักดันอุทยานแห่งชาติ สู่มาตรฐานสากล ภายใต้นโยบาย “เที่ยวสุขใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน”

รองนายกฯ สุชาติ ลงพื้นที่เขาใหญ่ ผลักดันอุทยานแห่งชาติ สู่มาตรฐานสากล ภายใต้นโยบาย “เที่ยวสุขใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน”

รองนายกฯ สุชาติ ลงพื้นที่เขาใหญ่ ผลักดันอุทยานแห่งชาติ สู่มาตรฐานสากล ภายใต้นโยบาย “เที่ยวสุขใจ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน”