“สุชาติ” เผย COP30 เปิดฉาก ยกระดับการต่อสู้ “เร่งลดอุณหภูมิโลกให้เร็วขึ้น”

“สุชาติ” เผย เปิดฉาก ยกระดับการต่อสู้ “เร่งลดอุณหภูมิโลกให้เร็วขึ้น”
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 30 (COP 30) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดการประชุมอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 โดย อธิบดีกรมการเปลี่ยนเเปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ ดร.กิตติศักดิ์ พฤกษ์กานนท์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และความร่วมมือระหว่างประเทศ พร้อมผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้แทนไทย เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม ณ เมืองเบเล็ง สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล
นาย André Corrêa do Lago รัฐมนตรีช่วยด้านสภาพภูมิอากาศ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม กระทรวงการต่างประเทศของบราซิล ในฐานะประธาน COP30 ได้กล่าวเน้นย้ำถึง การรวมตัวเพื่อยกระดับการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามแนวทางพหุภาคีระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่องภายใต้ความตกลงปารีส และต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิโลกให้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะติดตามประเด็นเจรจาที่สำคัญอย่างใกล้ชิด ตลอดช่วงระหว่างวันที่ 10 -21 พฤศจิกายน 2568
ด้าน นาย Simon Steill เลขาธิการ UNFCCC ได้กล่าวถึง ภารกิจอีกมากที่ต้องดำเนินการให้เร็วขึ้น โดยมีวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าต้องจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส โดยหลีกเลี่ยงความเสียหายในรูปแบบต้นทุนของการไม่ลงมือทำด้วยการเปลี่ยนผ่านพลังงาน การกำหนดตัวชี้วัดการปรับตัวระดับโลก รวมถึงการจัดทำแผนการเงิน Baku to Belém Roadmap to 1.3T ให้แล้วเสร็จ
นอกจากนี้ นาย Luiz Inácio Lula da Silva ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐบราซิล ได้ยืนยันเป้าหมายที่จะเป็น COP แห่งความจริง หรือ The COP of Truth และเป็น COP แห่งการนำไปปฏิบัติ และเน้นย้ำว่าแม้จะมีความก้าวหน้าที่บรรลุผลนับตั้งแต่ความตกลงปารีส แต่ความก้าวหน้าระดับโลกยังคงไม่เพียงพอที่จะควบคุมภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน
ในวันเดียวกันนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ยังได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เปิด Thailand Pavilion จัดกิจกรรมคู่ขนานเวที COP30 เป็นวันแรก ด้วยการเสวนา “Day One, We Rise: The COP Kick-Off with Youth Negotiators” ซึ่งมีตัวแทนจากกลุ่มเยาวชนจากหลากหลายประเทศ อาทิ แอลเบเนีย ยูกันดา ซูดาน โอมาน ชิลี และประเทศไทย ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะนักเจรจาทางด้านสภาพภูมิอากาศ (climate negotiators) และบทบาทหน้าที่ในการเจรจาทางด้านสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน
ในการเสวนาได้กล่าวถึงการที่ประเทศจะดำเนินการตามตกลงปารีสอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลจำเป็นต้องนำเยาวชน เข้ามาตลอดทั้งกระบวนการจนถึงการนำไปปฏิบัติ เช่น มีส่วนร่วมในการจัดการประชุมระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น ผู้ร่วมเสวนามีความเห็นร่วมกันว่าการประชุมสหประชาชาติยังคงเป็นเวทีสำคัญที่สุดเวทีหนึ่งของโลกในการรวมตัวกันมากกว่าหลายประเทศเพื่อเจรจาและหารือข้อตกลงร่วมกันในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผู้ร่วมเสวนามีความเห็นว่าการประชุมสหประชาชาติครั้งที่ 30 ปีนี้มีความน่าสนใจอยู่ 3 ประการ ได้แก่ 1. การพัฒนาของ Global Goal on Adaptation (GGA) 2.การนำ Gender Action Plan (GAP) มาใช้ในทางปฏิบัติ และ 3. ความคืบหน้าของ Climate Finance นอกจากนั้น ผู้ร่วมเสวนาได้กล่าวถึงประเด็นที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ intergenerational dialogue ซึ่งให้ความสำคัญกับความร่วมมือกันระหว่าง generation ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการเผชิญหน้าปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทั้งนี้ ท่านที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการประชุม COP 30 และความเคลื่อนไหวใน Thailand Pavilion ได้ทาง Facebook กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้ทุกวันไปจนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568
ที่มาภาพ: UN Climate Change
“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”





