กรมลดโลกร้อน ร่วมหารือเยอรมัน เดินหน้าความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานร่วมกับ Dr. Philipp Behrens, Head of Unit, International Climate Initiative, the Federal Ministry for Economic Affairs and Energy (BMWE) ในการประชุมเชิงนโยบายและคณะกรรมการกำกับโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมัน (Policy Dialogue and Steering Committee Meeting on Thai – German Cooperation in a field of climate change, biodiversity, and environment) พร้อมด้วยนายจิรวัฒน์ ระติสุนทร รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวัชรินทร์ บุญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในห้วงการประชุมองค์กรย่อยภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประจำปี 2568 ณ เมืองบอนน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และพลังงาน โดย กรมลดโลกร้อน ได้แลกเปลี่ยนความก้าวหน้าของการจัดทำ NDC 3.0 การจัดทำพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผน NAP การมีส่วนร่วมของประเทศไทยใน Climate Club กรมลดโลกร้อน ได้แสดงความสนใจในการดำเนินงานด้านการปรับตัวฯ ภาคเกษตรที่ต้องมีผลประโยชน์ร่วม (co-benefit) กับการลดก๊าซเรือนกระจก การรับมือกับภัยพิบัติโดยใช้ Nature-based Solutions ในการแก้ปัญหาในภาคเมือง อุตสาหกรรมที่ลดก๊าซฯ ได้ยาก การสร้างความร่วมมือกับธนาคารต่าง ๆ รวมถึงหารือการดำเนินความร่วมมือระหว่างไทย-เยอรมัน ภายใต้แผนงานปกป้องสภาพภูมิอากาศระดับสากล (International Climate Initiative: IKI) พร้อมนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองต่อประเด็นการเจรจาภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ ที่สำคัญ อาทิ แผนงาน Baku to Belem Roadmap to 1.3T การกำหนดตัวชี้วัดของเป้าหมายระดับโลกด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Global Goal on Adaptation: GGA) การดำเนินงานของMitigation Work Programme และความสำคัญของความร่วมมือภายใต้ข้อ 6 ของความตกลงปารีส ทั้งนี้ ดร.พิรุณฯ ได้ขอบคุณการสนับสนุนจากรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และยินดีสร้างความร่วมมือทั้งสองฝ่ายเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไปในอนาคต
“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”