ช่วงปี พ.ศ. 2533-2562 โลกเผชิญภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้นจากกิจกรรมมนุษย์ ทั้งก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบวงกว้างต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต ดังนั้น ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย จึงมุ่งลดก๊าซเรือนกระจก (mitigation) และปรับตัวจากผลกระทบเพื่อลดความสูญเสีย (adaptation) ประเทศไทยตั้งเป้าบรรลุจุดสูงสุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมของประเทศ ในปี พ.ศ. 2568 และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี พ.ศ. 2593 และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี พ.ศ. 2608 ผ่านนโยบายและมาตรการที่หลากหลาย ทั้งการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี การสร้างความตระหนัก และกลไกขับเคลื่อนต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายด้านการวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง เงินทุนสำหรับ SMEs การติดตามข้อมูลที่ครอบคลุม และการประเมินผลกระทบในทุกมิติการรับมือกับปัญหานี้จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน วิชาการ และประชาชน เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา ประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง สร้างความตระหนัก และสนับสนุนกลุ่มเปราะบาง รวมถึงใช้เครื่องมือและกลไกที่เหมาะสม เพื่อให้ประเทศไทยเป็นสังคมที่พร้อมรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างยั่งยืน (Climate Resilient)
🗞️ อ่านรายงานฉบับเต็มได้ทาง
ที่มา : รายงานสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ปี 2567
“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”