ทุกคนเคยได้ยินคำว่า “ระเบิดฝน (Rain Bomb)” กันไหมครับ แม้คำนี้จะไม่ใช่ศัพท์ทางอุตุนิยมวิทยาอย่างเป็นทางการ แต่มันถูกใช้เพื่ออธิบายถึงฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและรวดเร็วในบริเวณพื้นที่แคบๆ คล้ายกับการทิ้งระเบิดจากฟากฟ้า ในทางวิทยาศาสตร์ ปรากฏการณ์นี้ใกล้เคียงกับปรากฏการณ์ที่กระแสลมพุ่งลงอย่างแรงจากพายุฝนฟ้าคะนองที่เรียกว่า “wet microburst” ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในบริเวณเล็กๆ และในเวลาอันซึ่งเมื่อกระทบพื้นแล้วจะแผ่ขยายออกไปในทุกทิศทาง ทำให้เกิดลมแรงถึงแม้ว่า “ระเบิดฝน” จะเกิดขึ้นเพียงแค่ 5-10 นาที เท่านั้น แต่กลับสามารถสร้างความเสียหายได้มาก ทั้งจากปริมาณน้ำฝนที่สูงถึง 2 – 4 นิ้วต่อชั่วโมง และลมกระโชกแรงในแนวราบที่อาจมีความเร็วถึง 100 – 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น อากาศที่อุ่นขึ้นสามารถกักเก็บไอน้ำได้มากขึ้นประมาณ 7% ต่อองศาเซลเซียสที่เพิ่มขึ้น เมื่อมีไอน้ำในชั้นบรรยากาศมากขึ้น ก็มีโอกาสที่จะเกิดฝนตกหนักและรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจพัฒนากลายเป็น “ระเบิดฝน” ได้ในที่สุด
               สำหรับประเทศไทยของเราก็มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ฝนตกหนักที่รุนแรงขึ้นนี้เช่นกัน ซึ่งแม้คำว่า “ระเบิดฝน” จะไม่ถูกใช้บ่อยนักในอดีต แต่ประเทศไทยก็เคยเผชิญกับเหตุการณ์ฝนตกหนักที่อาจมีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น น้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ ปี 2529, 2537 และ 2554 รวมถึงฝนตกหนักในภาคใต้ปี 2560 และล่าสุดในปี 2567 ที่มีการกล่าวถึง “rain bomb” ในกรุงเทพฯ ดังนั้น แนวโน้มในอนาคตชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยจะมีความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ฝนตกหนักที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึง “ระเบิดฝน” ด้วย อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้บ่อยและรุนแรงขึ้น ที่สำคัญประเทศไทยของเรามีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบและมีความเปราะบางต่อ “ระเบิดฝน” เนื่องจากระเบิดฝนสามารถสร้างผลกระทบและความเสียหายอย่างมากต่อโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ เช่น ถนน สะพาน และระบบระบายน้ำ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจตามมา ซึ่งประเทศไทยมีความเปราะบางต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติเหล่านี้ เนื่องจากตั้งอยู่ในภูมิภาคที่มีความเสี่ยงต่อสภาพอากาศสุดขั้ว
               พวกเราในฐานะประชาชนสามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับ “ระเบิดฝน” ได้ง่ายๆ โดยการติดตามข่าวสารและประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และหากพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ควรเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน นอกจากนี้ สามารถช่วยกันดูแลรักษาและพัฒนาระบบระบายน้ำในชุมชน และสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้เกิด “ระเบิดฝน”
               การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราอีกต่อไป และมันส่งผลต่อปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่าง “ระเบิดฝน” การทำความเข้าใจและเตรียมพร้อมในการปรับตัวเพื่อรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ จะช่วยลดความเสียหายและผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของเราได้

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

แหล่งที่มา :
– GZA Known for excellence : Built on trust., Sheltering from the strom : “Rain Bombs” and Developing Mitigation Approaches.
– LIVESCIENCE. Facts About Microbursts.
– Getaway. ‘Rain bombs’ captured in all their beauty.
– CLIMATE COUNCIL., A Super Charged Climate : Rain Bombs, Flash Flooding and Destruction.
– National Weather Service : National Oceanic and Atmospheric Administration., What is Microburst?
– IPCC Sixth Assessment Report. Working Group 1 : The Physical Science Basis., Chapter 11 : Weather and Climate Extreme Events in a Changing Climate.