“ระบบเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับทุกคน” ริเริ่มโดยองค์การสหประชาชาติ เมื่อปี ค.ศ. 2022 มีเป้าหมายให้ประชากรโลกได้รับการปกป้องจากภัยที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ น้ำ หรือสภาพภูมิอากาศ ผ่านระบบเตือนภัยภัยพิบัติทุกรูปแบบ (Multi-Hazard Early Warning Systems: MHEWS) ภายในสิ้นปี ค.ศ. 2027 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านการปรับตัวระดับโลก (Global Goal on Adaptation: GGA)
        ระบบเตือนภัยภัยพิบัติทุกรูปแบบเป็นระบบที่บูรณาการการแจ้งเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์สภาพอากาศหรือภูมิอากาศที่อาจเป็นอันตราย พร้อมทั้งให้ข้อมูลแนวทางปฏิบัติแก่รัฐบาล ชุมชน และประชาชน เพื่อบรรเทาผลกระทบ ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 4 เสาหลัก ได้แก่

Figure 1. Graphical presentation of a Multi-Hazard Early Warning System (MHEWS)

  • เสาหลักที่ 1:ความรู้และการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ
    (ดำเนินการโดย  United Nations Office for Disaster Risk Reduction :UNDRR)
    ข้อมูลความเสี่ยงที่ครบถ้วนและถูกต้อง เป็นพื้นฐานสำคัญของระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึกในระดับพื้นที่ที่เกี่ยวกับภัยพิบัติ ความเปราะบาง ความเป็นอยู่
    ของประชาชน โครงสร้างทางสังคม และบริบทเฉพาะถิ่น เพื่อประเมินความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำ
    และวางแผนการรับมือได้อย่างเหมาะสม
  • เสาหลักที่ 2:การตรวจวัด การสังเกต การเฝ้าติดตาม การวิเคราะห์ และการพยากรณ์
    (ดำเนินการโดย World Meteorological Organization: WMO)
    ระบบเตือนภัยล่วงหน้าจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลจากการสังเกตทั้งบนพื้นดินและดาวเทียม
    มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศอย่างเสรี เพื่อนำไปสู่การสร้างแบบจำลองและการพยากรณ์
    ที่แม่นยำด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์
  • เสาหลักที่ 3:การเผยแพร่และการสื่อสารเกี่ยวกับการเตือนภัย
    (ดำเนินการโดย International Telecommunication Union: ITU)
    ประชาชนต้องได้รับการเตือนภัยล่วงหน้าก่อนเกิดภัย ผ่านช่องทางที่เหมาะสม เชื่อถือได้ เข้าใจง่าย และทันเวลา กระบวนการออกแบบการสื่อสารต้องคำนึงถึงกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้หญิง เด็ก คนพิการ และชนพื้นเมือง เพื่อให้ทุกคนสามารถรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างเท่าเทียม
  • เสาหลักที่ 4:ความพร้อมและความสามารถในการตอบสนอง
    (ดำเนินการโดย International Federation of Red Cross and Red Crescent Societies: IFRC)
    การเตรียมความพร้อมเป็นหัวใจสำคัญของการลดผลกระทบจากภัยพิบัติ ต้องสามารถตอบสนอง
    ต่อภัยได้ทันที แม้เหตุการณ์จะยังไม่เกิดขึ้นจริง แผนการเตรียมความพร้อมควรมีความชัดเจน
    ได้รับการฝึกซ้อมและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง พร้อมคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลง
    เช่น สภาพภูมิอากาศ เป็นต้น และให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก

ที่มา :World Meteorological Organization (WMO), “Early Warnings for All: Executive Action Plan 2023-2027 (The UN Global Early Warning Initiative for the Implementation of Climate Adaptation)”, 2022. Available at https://library.wmo.int/index.php?lvl=notice_display&id=22154#.Y_qoaHbP3IW

ESCAP, U., & Warning, R. I. M. H. E. (2023). Compendium of multi-hazard early warning cooperation. Available at https://hdl.handle.net/20.500.12870/5683

เรียบเรียงบทความโดย :นางสาวสุชาดา ขำวรพันธ์