กรมลดโลกร้อน จับมือ TDRI รับฟังร่าง Action Plan on Adaptation ขับเคลื่อนการดำเนินงานปรับตัวฯรายสาขาอย่างเป็นรูปธรรม

          วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใต้โครงการพัฒนาแนวทางการจัดทำแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ณ ห้องประชุม Ballroom ชั้น 12 โรงแรม วี กรุงเทพฯ เอ็มแกลเลอรี โฮเทล คอลเลคชั่น กรุงเทพมหานคร และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (โปรแกรม ZOOM Cloud Meeting และ LIVE สดผ่านทาง Facebook: กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม) โดยมีนายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุม โดยการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณา (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการปรับตัวฯ ระดับประเทศไปสู่การปฏิบัติ อย่างเป็นรูปธรรม
​          ในการประชุม ผู้เชี่ยวชาญรายสาขาทั้ง 6 สาขาได้นำเสนอ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งประกอบด้วย 1) (ร่าง) ตัวชี้วัดเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินการที่สอดคล้องกับเป้าหมายแต่ละสาขา 2) แผนการดําเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กิจกรรม/ โครงการ ที่ตอบสนองต่อความเสี่ยงรายสาขาตาม บริบทของพื้นที่ 3) โครงการสําคัญ (Flagship project) ของแต่ละสาขาที่ตอบสนองต่อความเสี่ยงด้านภูมิอากาศ โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งในสถานที่ และออนไลน์กว่า 250 คน จากหน่วยงานรายสาขาทั้ง 6 สาขา สาขาที่เกี่ยวข้อง ผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 – 16 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาและเสนอข้อคิดเห็นต่อ (ร่าง) แผนปฏิบัติการดังกล่าว ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะที่ได้รับจะนำไปใช้ในการปรับปรุง (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ ให้เกิดความสมบูรณ์ ครบถ้วน และตอบสนองต่อความท้าทายของการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการปรับตัวฯ ของประเทศ อีกทั้งยังเป็นกรอบการดำเนินงานที่นำไปประยุกต์ใช้ในระดับพื้นที่ได้อย่างเหมาะสมต่อไป
         “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

DCCE เดินหน้าโครงการ Enhancing Thailand’s Climate actions at local level ผ่านความร่วมมือทางวิชาการจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA)

               วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดย ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ร่วมกับคณะผู้แทนจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) นำโดย Mr. KAWANISHI Masato และคณะ เพื่อชี้แจงกรอบการดำเนินโครงการฯ ซึ่งจะช่วยยกระดับการดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับจังหวัด ประกอบด้วย (1) การพัฒนาข้อมูล องค์ความรู้ รวมถึงเครื่องมือสนับสนุนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (2) การเสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และเจ้าหน้าที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (3) การดำเนินมาตรการด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่นำร่อง โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2569 – 2573 รวมระยะเวลา 4 ปี
               “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมพิธีเปิดโครงการตัดไม้เกษตรที่ปลูกขึ้นเอง เพื่อการดำรงชีพอย่างปกติธุระของชุมชน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทะเลบัน จ.สตูล

          วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติทะเลบัน จังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดโครงการตัดไม้เกษตรที่ปลูกขึ้นเอง เพื่อการดำรงชีพอย่างปกติธุระ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทะเลบัน ณ แปลงยางพารา ภายในอุทยานแห่งชาติทะเลบัน จังหวัดสตูล จัดขึ้นโดย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อดำเนินการนำร่องการตัดฟันไม้ยางพาราในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย แห่งแรกของประเทศไทย ให้กับราษฎรที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและจัดแปลงที่ดินทำกินตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นแปลงที่ นายอาซีซัน อำมาลี ราษฎรในพื้นที่บ้านวังประจันใต้ หมู่ที่ 4 ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ได้รับการสำรวจการถือครองที่ดิน และได้รับการรับรองการอยู่อาศัยภายในป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติทะเลบัน เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 3 งาน 27 ตารางวา โดยมี นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ หน่วยราชการในพื้นที่ และประชาชน ให้การต้อนรับและร่วมเป็นสักขีพยาน
          ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนที่อยู่อาศัยทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ เพื่อให้มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะอยู่อาศัยและทำกินเพื่อการดำรงชีพอย่างเป็นปกติธุระในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างมีศักดิ์ศรีและเกิดความภาคภูมิใจ และสิทธินั้นสามารถตกทอดสู่ลูกหลานได้ต่อไป ชุมชนหรือประชาชนในพื้นที่โครงการฯ ยังสามารถที่จะพัฒนาสาธารณูปโภค สาธารณูปการ พัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงได้รับการสนับสนุนหรือขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลได้อย่างเท่าเทียมและไม่เกิดความเหลื่อมล้ำ สำหรับในส่วนของการตัดไม้ยืนต้นฯ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางการตัดไม้ยืนต้น ไม้เกษตร หรือไม้ที่ปลูกตามนโยบายของรัฐในการปลูกป่าเลียนแบบธรรมชาติ การสร้างป่าเชิงนิเวศ หรือปลูกป่าระบบวนเกษตร และไม้ยืนต้นที่เป็นไม้ใช้สอยยืนต้นที่ปลูกขึ้นเอง อย่างถูกต้อง ชัดเจน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีเอกภาพ ซึ่งในวันนี้ จะเป็นการตัดต้นยางพาราในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้นแรกของประเทศตามกฎหมาย
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อนร่วมผนึกกำลัง MOU 10 พันธมิตร พัฒนาฐานข้อมูลและตัวชี้วัดเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

          เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับคณะผู้บริหาร รวม 10 หน่วยงาน เข้าร่วมพิธีลงนามความร่วมมือการพัฒนาฐานข้อมูลและตัวชี้วัดเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช และภาคีความร่วมมือโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ฐานข้อมูลและตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs Goal) รองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ เศรษฐกิจหมุนเวียน และสังคมคาร์บอนต่ำ
          ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวว่า “ณ ขณะนี้ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ เป็นเรื่องสำคัญ จากรายงานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO ได้รายงานสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปีที่ผ่านมา (2024) พบว่าเป็นปีที่ร้อนที่สุดในรอบ 175 ปีที่มีการบันทึก โดยโลกมีอุณหภูมิสูงกว่ายุคก่อน อุตสาหกรรมถึง 1.55 + 0.13 องศาเซลเซียส ซึ่งทั่วโลกต้องเผชิญรูปแบบภัยพิบัติที่มีความถี่และทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบทุกภาคส่วน รวมถึงภาคธุรกิจซึ่งจะต้องมีการปรับตัวเพื่อลดความเสี่ยงและเป็นการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในเวลาเดียวกัน โดยอาศัยเครื่องมือกลไกหลายช่องทางสนับสนุนภาคธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสังคมคาร์บอนต่ำ โดยในแผนการดำเนินงานความร่วมมือฯ นี้ ได้กำหนดแผนที่สัมพันธ์กับเป้าหมายภารกิจกรม ได้แก่ การพัฒนาค่ากลางการปล่อยคาร์บอน (CBAM Default Values) ของกลุ่มอุตสาหกรรม เป้าหมายภายใต้มาตรการ CBAM การพัฒนาฐานข้อมูลวัฏจักรชีวิตและจัดทำเป็นค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission Factor: EF) โดยสามารถเชื่อมโยงกับ “ภาษีคาร์บอน” เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญใน พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา และในตอนท้าย ดร.พิรุณ ได้ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ ข้อมูลที่จัดทำจะต้องมีความชัดเจน ไม่ซ้ำซ้อน เป็นข้อมูลที่มีคุณภาพ (Data Quality) เพื่อให้ Al นำมาพัฒนารายงานให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือและสามารถวิเคราะห์ในเชิงลึกต่อไป และความร่วมมือพัฒนาฐานข้อมูลและตัวชี้วัดเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำนี้จะเป็นหนึ่งในจิ๊กซอร์การทำงานร่วมกันเพื่อมุ่งให้การขับเคลื่อนเป้าหมายได้อย่างยั่งยืนต่อไป”
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน จัดประชุมคณะทำงานเจรจาสำหรับการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 1/2568

               วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (กรมลดโลกร้อน) จัดการประชุมคณะทำงานเจรจาสำหรับการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานคณะทำงาน พร้อมกับหน่วยงานภายใต้คณะทำงานฯ จำนวน 23 หน่วยงาน เข้าร่วมการประชุม
              ที่ประชุมได้รับทราบ (1) คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานฯ ดังกล่าว (2) สรุปผลการประชุมคณะทำงานอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 16 (16th AWGCC) (3) สรุปผลการประชุมองค์กรย่อยภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ ประจำปี พ.ศ. 2568 ซึ่งจะเชื่อมโยงไปสู่การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ สมัยที่ 30 (COP 30) ณ สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 ต่อไป
              นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา (1) ร่างองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยในการประชุม COP 30 (2) ร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับการประชุม COP 30 (3) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสหพันธรัฐรัสเซียว่าด้วยประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาคาร์บอนต่ำ และ (4) ร่างบันทึกข้อตกลงระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการต่างประเทศและการค้าแห่งนิวซีแลนด์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยที่ประชุมได้ให้ความเห็นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของไทย ทั้งภายใต้กรอบอาเซียน และกรอบทวิภาคี พร้อมมอบหมายฝ่ายเลขานุการฯ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไป
              “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”
 
 

กรมลดโลกร้อน จัดประชุมคณะทำงานบูรณาการนโยบายและแผนการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ครั้งที่ 1/2568

          เมื่อวันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดการประชุมคณะทำงานบูรณาการนโยบายและแผนการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานคณะทำงานฯ ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานรับผิดชอบหลักรายสาขา (Sectoral focal point) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสาขาพลังงาน สาขาคมนาคมขนส่ง สาขากระบวนการทางอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ สาขาของเสีย สาขาเกษตร ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะคณะทำงานฯ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จำนวนรวมทั้งสิ้น 80 คน เพื่อรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานบูรณาการนโยบายและแผนการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ และการจัดส่งเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ฉบับที่ 2 (NDC 3.0) ต่อสำนักเลขาธิการกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ของภาคีความตกลงปารีส พร้อมทั้ง ได้มีการพิจารณาให้ความเห็นต่อร่างเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ฉบับที่ 2 (NDC 3.0) และแผนการลงทุน (Investment Plan) ซึ่งจะเสนอต่อคณะอนุกรรมการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้านการบูรณาการนโยบายและแผน คณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา ก่อนจัดส่งต่อ UNFCCC ภายในเดือนกันยายน พ.ศ.2568 ต่อไป

          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมพิธีเปิดอบรมนักบริหารระดับสูง นบส. ทส. รุ่นที่ 4 มุ่งพัฒนาผู้นำยุคใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

          วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นบส.ทส.) รุ่นที่ 4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ ห้องพาโนรามา 2 ชั้น 14 โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพมหานคร โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ และหน่วยงานภายนอก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด โดยหลักสูตร นบส.ทส. รุ่นที่ 4 มีผู้เข้ารับการอบรม 22 ราย แบ่งเป็นข้าราชการภายในสังกัดกระทรวงฯ จำนวน 19 ราย และข้าราชการจากหน่วยงานภายนอก 3 ราย ซึ่งล้วนเป็นผู้มีศักยภาพและเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นผู้นำระดับสูงของภาครัฐด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป
          การฝึกอบรมในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของชีวิต เป็นจุดเริ่มต้นที่มีคุณค่าในการก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงและความสำเร็จในอนาคต เพราะการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด โดยเฉพาะสำหรับข้าราชการผู้มีเกียรติและศักดิ์ศรี ที่ต้องปรับตัวให้เท่าทันสถานการณ์ และยกระดับสมรรถนะให้สามารถบริหารจัดการภายใต้การเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งนำไปปรับใช้ในการดำเนินงานและสร้างประโยชน์ให้แก่หน่วยงาน รวมถึงประเทศชาติอย่างแท้จริง

          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

ขอเชิญร่วมงานประชุมสัมมนาวิชาการและแสดงนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี วันที่ 24 – 25 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ (ชั้น 11)

               กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสัง (MDES) และสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) เป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงาน Digital HR Forum, Healthcare Technology Summit, Big Data & Cloud Computing, และงาน Robotics Summit ซึ่งเป็นการจัดงานประชุมสัมมนาวิชาการและแสดงนวัตกรรมดิจิทัลเทคโนโลยี มีกำหนดจัดงานวันที่ 24 – 25 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพฯ (ชั้น 11) โดยมีแนวคิดหลักดังนี้

  • Big Data & Cloud Computing (ครั้งที่ 7 ) งานสัมมนาวิชาการและแสดงนวัตกรรม ด้าน Big Data & Cloud ภายใต้แนวคิดหลัก Beyond Boundaries : Scaling with Big Data Analytics & Cloud
  • Digital HR Forum (ครั้งที่ 8) งานสัมมนาวิชาการและแสดงนวัตกรรมด้าน HR Transformation ภายใต้แนวคิดหลัก Unlock HR to Drive Business Performance in Any Context
  • Healthcare Technology Summit (ครั้งที่ 12) เป็นงานสัมมนาวิชาการและแสดงนวัตกรรมด้าน Healthcare ภายใต้แนวคิดหลัก Shaping Thailand’s Sustainable Health Together through Digital Health
  • Robotics Summit (ครั้งที่ 6) งานสัมมนาวิชาการและแสดงนวัตกรรมด้าน Robotics ภายใต้แนวคิดหลัก Advancing Robotics : Innovating Automation for Business Success
“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

ดร.เฉลิมชัย ปิดหลักสูตร ปธส. 12 มุ่งสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ท่ามกลางวิกฤตโลกเดือด

               วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดพิธีปิดการอบรม หลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 12 (ปธส.12) และงาน IS Conference Day ภายใต้แนวคิด “Leading Forward: Transforming Business for a Resilient and Net-Zero Future” สะท้อนความร่วมมือในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับข้อเสนอผลงานวิชาการหลักสูตร ปธส.12 พร้อมเป็นประธานในพิธีปิดการอบรม พร้อมด้วย ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงาน ซึ่ง รมว.ทส. หวังให้ ปธส. 12 เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างยั่งยืน และเท่าทันกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก
               ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หลักสูตร ปธส. มีบทบาทสำคัญในการยกระดับศักยภาพ ความรู้ ประสบการณ์และกระบวนทัศน์ของนักบริหารระดับสูงยุคใหม่ให้สามารถบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนแบบองค์รวมและบูรณาการ ตามหลักธรรมาภิบาล โดยเฉพาะในยุคที่ประเทศไทยและโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายจากปัญหาสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าทุกคนได้ตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเป็นประเด็นระดับโลก ในฐานะประชากรของโลก เรามีหน้าที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งมีความมั่นใจว่าตลอดระยะเวลา 4 เดือนของการอบรมฯ ปธส. 12 ได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์อย่างเข้มข้น อันจะเป็นประโยชน์ในการกำหนดนโยบายและบริหารองค์กรอย่างมีธรรมาภิบาล
               “หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้สำเร็จการอบรม ปธส. 12 จะเป็นต้นแบบของผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มต้นจากการเป็นปฏิบัติจริง และสามารถขยายผลสู่องค์กร หน่วยงาน และสังคมในวงกว้าง โดยยึดหลักความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้ง ขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการผลักดันให้การพัฒนางานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ” ดร.เฉลิมชัย กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้จัดให้มีเวทีเสวนาในหัวข้อ “New ERA of Climate Change Innovation and Technology” โดยผู้เชี่ยวชาญจากทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ เกี่ยวกับนวัตกรรม เทคโนโลยี และแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมในยุคใหม่ สร้างความตระหนักและความเข้าใจในการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศได้ในอนาคต

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ประชุมคณะอนุกรรมการฯ เตรียมจัด TCAC 2025 ขับเคลื่อนงาน Thailand climate action

               กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเตรียมการจัดการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand Climate Action Conference) ครั้งที่ 1/2568 ในวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุม ชั้น 17 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) โดยมีนางอรนุช หล่อเพ็ญศรี รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม อนุกรรมการ นายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม อนุกรรมการและเลขานุการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายภาคเอกชน ในฐานะคณะอนุกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาและให้ข้อเสนอแนะต่อกรอบแนวทางการจัดการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 4 (Thailand Climate Action Conference: TCAC 2025) ทั้งในด้านสารัตถะการประชุม การจัดนิทรรศการ และการประชาสัมพันธ์ ซึ่งงาน TCAC 2025 นี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “จุดประกายความคิด ร่วมพลิกวิกฤตโลกเดือด (Inspiring Climate Solution for All)” โดยมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 30 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”