กรมลดโลกร้อน จัดประชุม “การแก้ปัญหาโดยอาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน (NbS)” รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

               วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2568 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยกองขับเคลื่อนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับบริษัททีพี 465 จำกัด และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ Nature-based Solutions (การแก้ปัญหาโดยอาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน) เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ห้องประชุม Infinity 2 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายปวิช เกศวววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บริหารกรมฯ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ กว่า 80 คน
               การประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทาง Nature-based Solutions (NbS) ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เสริมสร้างศักยภาพผู้ปฏิบัติงาน และผลักดันการนำ NbS ไปประยุกต์ใช้ในระดับนโยบายและพื้นที่ปฏิบัติ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการปรับตัวของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง NbS กําลังได้รับความสำคัญในการนํามาแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นการใช้ความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศเพื่อช่วยให้ผู้คนปรับตัวเข้ากับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สามารถนําไปใช้กับหลายภาคส่วน และยังมีแนวทางและมาตรการนำ NbS มาปรับใช้ในสาขาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสาขาการจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานตามแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (Thailand’s National Adaptation Plan : NAP)

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมงานเฉลิมฉลอง 170 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–สหราชอาณาจักร ผนึกกำลังเดินหน้าสู้วิกฤตโลกร้อน

               เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดย นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมงานฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร และ 170 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตราชอาณาจักรไทย-สหราชอาณาจักร ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมโฟร์ ซีซั่น กรุงเทพ จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย
               ในปัจจุบันประเทศไทยและสหราชอาณาจักรได้ร่วมมือกันขับเคลื่อนงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมมากมาย เช่น โครงการความร่วมมือ Thailand – UK PACT ที่ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนเชิงเทคนิคในการดำเนินงานด้านระบบการตรวจวัด รายงาน และทวนสอบ (MRV) การวางยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับมาตรการ CBAM รวมถึงโครงการยกระดับขีดความสามารถในการปรับตัวฯ ในภาคการเกษตร ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพของเกษตรกรในการรับมือต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ฝ่ายสหราชอาณาจักรยินดีให้การสนับสนุนทั้งในด้านการจัดทำแผนการลงทุนเพื่อสนับสนุนการจัดดำเนินงานตาม NDC 3.0 รวมทั้งการขยายความร่วมมือด้านการปรับตัวฯ ให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนและมีภูมิคุ้มกันต่อไป

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

“กรมลดโลกร้อน” ร่วมกับ “ช่องวัน 31” และ “GC” มอบเสื้อนิรภัยสะท้อนแสง Upcycle 100 ตัว จาก “โครงการ one แยก แลก สุข” เปลี่ยนขยะให้เป็นประโยชน์

               วันที่ 5 มิถุนายน 2568 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดย ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมเป็นเกียรติใน “โครงการ one แยก แลก สุข” มอบเสื้อนิรภัยสะท้อนแสง Upcycle จำนวน 100 ตัว ให้กับพนักงานเก็บขยะ และพนักงานกวาดขยะ ในเขตวัฒนา ร่วมกับนายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพร์ส นายกิจชัย เฉลิมสุขสันต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีมูลค่าเพิ่ม บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และผู้บริหารกรมฯ เข้าร่วม โดยมีนางสาวพิมพ์จุฑา สกุนสิทธิ์ธาดา ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตวัฒนา เป็นผู้แทนรับมอบ ณ อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ชั้น 21 ห้อง Auditorium
               โครงการ “one แยก แลก สุข” ดังกล่าว เป็นโครงการที่ช่องวัน 31 ได้จัดทำขึ้นเพื่อรณรงค์ให้พนักงานในองค์กรร่วมกัน แยกขยะอย่างถูกวิธี ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนขยะให้เป็นประโยชน์” โดยขยะที่แยกได้จะถูกนำไปผ่านกระบวนการอัพไซเคิลผลิตเป็นเสื้อนิรภัยสะท้อนแสง โดยตลอดกิจกรรมสามารถรวบรวมขยะรีไซเคิลได้กว่า 4,500 กิโลกรัม ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้ 14,800 kgCO2eq เทียบเท่าการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 1,561 ต้น สะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนสังคมสีเขียวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีเพื่อสิ่งแวดล้อม และชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

ทส. จัดกิจกรรมวันสิ่งแวดล้อมโลก ปี 2568 ชวนคนไทย “ใช้พลาสติกอย่างเข้าใจ เปลี่ยนประเทศไทยให้ยั่งยืน”

               วันที่ 5 มิถุนายน 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิดระดับโลก “Beat Plastic Pollution: Ending global plastic pollution ใช้พลาสติกอย่างเข้าใจ เปลี่ยนประเทศไทยให้ยั่งยืน” ส่งเสริมความร่วมมือทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหามลพิษจากพลาสติกอย่างยั่งยืน โดยดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย Ms. Marlene Nilsson รองผู้อำนวยการโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ และ ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานเปิดงาน ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
               นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีการผลิตพลาสติกมากกว่า 400 ล้านตันต่อปี โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นพลาสติกใช้ครั้งเดียว และเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลไม่ถึง 10% รวมทั้งยังก่อให้เกิดไมโครพลาสติกปะปนในสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2050 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพลาสติก จะคิดเป็น 15% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด ขณะที่ประเทศไทยผลิตพลาสติก 9 ล้านตันต่อปี โดย 36% เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งในปี 2567 มีปริมาณขยะพลาสติกเกิดขึ้น 2.88 ล้านตัน และมีการนำพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์เพียง 25%
               นายนราพัฒน์ กล่าวต่อว่า ประเทศไทย มี Roadmap การจัดการขยะพลาสติกของประเทศ พ.ศ. 2561-2573 มีเป้าหมาย ลดและเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และ การนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ 100% ภายใน ปี 2570 ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการลดและมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาพลาสติก โดยได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 1 (พ.ศ.2563 – 2565) ที่ดำเนินการตามมาตรการแล้ว ได้แก่ ห้ามใช้พลาสติกบางประเภท ห้ามผลิต นำเข้า และจำหน่ายไมโครบีดส์ (Microbeads) ยกเลิกการใช้แคปซีลบนฝาขวดน้ำดื่ม ถุงพลาสติกชนิดบางความหนา ต่ำกว่า 36 ไมครอน รวมถึงแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566 – 2570) บริหารจัดการขยะพลาสติกครบวงจรที่มุ่งเน้นส่งเสริมการรีไซเคิลขยะพลาสติก 100% อีกทั้ง ยังได้ร่วมกับภาคเอกชน กลุ่มผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ และกลุ่มผู้ประกอบการร้านกาแฟทั่วประเทศ จำนวน 45 หน่วยงาน รวม 31,637 ร้าน/สาขา ประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือ ร่วมกันลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกหรือภาชนะแบบใช้ครั้งเดียว พร้อมส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเข้ามาทดแทน และนำทรัพยากรกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
               นอกจากนี้ ทส. ยังได้เดินหน้าผลักดัน (ร่าง) พระราชบัญญัติการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน พ.ศ. .. ภายใต้หลักการ EPR ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่ของบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการบรรจุภัณฑ์ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างขั้นตอนการให้เลขาธิการรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป อีกทั้ง ยังมีแนวคิดจะร่วมมือกับสมาคมฯ นำเสนอรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียนซาเล้ง ให้เหมือนกับการขึ้นทะเบียนวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งจะทำให้ซาเล้งมีความเป็นระเบียบ น่าเชื่อถือ และในขณะเดียวกัน เราก็จะได้ผู้ช่วยด้านการจัดการขยะต้นทางมาช่วยงานเพิ่มอีกด้วย พร้อมกันนี้ จะมีการยกระดับร้านรับซื้อของเก่าให้มีระบบบริหารจัดการที่ดี และสร้างความเชื่อมโยงกับระบบคัดแยกขยะในชุมชน เพื่อให้กิจกรรมคัดแยกที่เกิดขึ้น มีผู้รับซื้อนำกลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิลหรือการจัดการที่ถูกต้องต่อไป ซึ่งทั้งหมดนี้จะสอดคล้องกับรูปแบบ พ.ร.บ. EPR ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
               นายนราพัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เนื่องในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมโลกนี้ ขอเชิญชวนทุกภาคส่วน ร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก ใช้พลาสติกอย่างเข้าใจ ใช้เท่าที่จำเป็น และคุ้มค่า และนำกลับมาหมุนเวียนใช้ประโยชน์ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้ยั่งยืน”
               ภายในงานมีการเสวนา Ted Talk ภายใต้แนวคิด “Beat Plastic Pollution: Ending global plastic pollution” ได้รับเกียรติจากคณะวิทยากรผู้มากประสบการณ์ ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ และแนวทางการปฏิบัติ เพื่อให้เกิดผลอย่างยั่งยืนต่อไป อีกทั้ง กิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมทดสอบความรู้ ร่วมกันแก้ไขวิกฤตพลาสติกอย่างยั่งยืน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานรวมกว่า 800 คน พร้อมถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live ของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยการจัดงานครั้งนี้ เป็นการจัดงานแบบปลอดคาร์บอน (Carbon Neutral Event) เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมหารือ พอช. และกองทุนสิ่งแวดล้อม ยกระดับความร่วมมือสนับสนุนชุมชนให้มีการปรับตัวอย่างมีแบบแผน

               วันที่ 4 มิถุนายน 2568 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) และสำนักงานกองทุนสิ่งแวดล้อม ร่วมประชุมพัฒนาแผนงานด้านการป้องกันและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของชุมชน ณ ห้องประชุมอินทนิล (301) อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เพื่อหารือความร่วมมือในการสนับสนุนเครือข่ายภาคประชาชนให้มีขีดความสามารถในการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีแบบแผนภายใต้ข้อมูลทางวิชาการ เทคโนโลยี ความรู้ และต้นทุนการทำงานของ พอช.และ สส. พร้อมทั้งพัฒนากลไกและแผนความร่วมมือในการสนับสนุนการทำงาน โดยมี นายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุม และมีผู้เข้าร่วมจากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และสำนักงานกองทุนสิ่งแวดล้อมซึ่งที่ประชุมได้มีแนวทางความร่วมมือที่สำคัญ คือ
               1. พัฒนากลไกร่วมในการขับเคลื่อนและสนับสนุนการทำงานเครือข่ายภาคประชาชน
               2. บูรณาการการทำงานร่วมทั้งความรู้ เทคโนโลยี พื้นที่ เครือข่าย นวัตกรรม และอื่นๆ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันจากต้นทุนของทั้ง 2 องค์กร
               3. พัฒนาขีดความสามารถบุคลากรหน่วยงาน รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชนให้เท่าทันข้อมูล และแนวปฏิบัติ
               4. พัฒนาโครงการนำร่องที่สามารถเชื่อมร้อยประเด็นการทำงานในทุกมิติของการปรับตัว และสอดคล้องกรอบการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม
               ทั้งนี้ ได้มีข้อสรุปให้ตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อพัฒนารายละเอียด และให้ Mapping ข้อมูลของแต่ละองค์กร เพื่อนำสู่การออกแบบการทำงานร่วมกันในโครงการและพื้นที่นำร่องให้เสร็จก่อนมีการนัดหารือกันในครั้งต่อไป

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

ทส. ประชาสัมพันธ์โครงการ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป ชวนแยกแลกมังคุด” ช่วยโลก ช่วยเกษตรไทย เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 2568

               วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) พร้อมด้วย ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม คุณณัฐศมน วงศ์กิตติพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่การตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด คุณภควัฏ ฉินทกานันท์ ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต Fresh ประชาสัมพันธ์โครงการ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป ชวนแยกแลกมังคุด” ช่วยโลก ช่วยเกษตรไทย เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ประจำปี 2568 ณ บริเวณหน้า Gourmet Market ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่สนใจ สามารถนำขวดพลาสติก PET จำนวน 10 ขวด มาแลกรับมังคุด 1 กิโลกรัม ได้ที่บูธกิจกรรมหน้ากูร์เมต์มาร์เก็ต สาขาที่ร่วมรายการตั้งแต่วันที่ 5 – 8 มิถุนายน 2568 เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์การนำพลาสติกกลับสู่กระบวนการรีไซเคิล

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

สส. ร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568

               วันอังคารที่ 3 มิถุนายน 2568 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดย นายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ ท้องสนามหลวง

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

สส. ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล พร้อมร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

               วันอังคารที่ 3 มิถุนายน 2568 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมถวายพระพรชัยมงคล แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 โดย ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายปวิช เกศววงศ์ และนายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล พร้อมร่วมลงนามถวายพระพร ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมพิธีเปิดงานประชุมประจำปี 2568 “Bioday Play & Learn : Turn into Action”

               วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2568 นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมประจำปี 2568 ในหัวข้อ “Bioday Play & Learn : Turn into Action” จัดขึ้นโดย สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงฯ เข้าร่วม ณ อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
               การจัดงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเสวนาในหัวข้อ “พลังเสียงเพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่ธรรมชาติยั่งยืน” ผ่านตัวแทน “Influencer” กลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึง การเสวนาในหัวข้อ “สผ. ก้าวไปด้วยกัน: Turn into Action now!” นอกจากนี้ กรมลดโลกร้อน ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเชื่อมโยงต่อความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อสร้างการรับรู้และแนวทางปฏิบัติสำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป ให้พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
               นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวว่า “กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับการบูรณาการการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ โดยการสร้างความตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญให้ทุกภาคส่วนเข้าใจ และมีส่วนร่วม การส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรมที่ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ รวมถึงการเพิ่มความร่วมมือด้านแหล่งเงินทุน ผ่านกลไกทางการเงิน ให้กับประชาชนและวิสาหกิจชุมชน ที่เน้นการผลิตสินค้าจากฐานทรัพยากรชีวภาพ ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ต่าง ๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชน การใช้ประโยชน์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ ให้เป็นไป อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน”
               ทั้งนี้ การจัดงานในครั้งนี้อยากให้ทุกคนมาสนุกกับการเรียนรู้ และลงมือทำเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ เพียงแค่เริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆ ในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ ลดการใช้พลาสติก แยกขยะ หรือสนับสนุนสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการบริหารจัดการ บนหลักของการมีส่วนร่วมและธรรมาภิบาล อันนำไปสู่การสร้างความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนที่ยั่งยืน

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมงานวันป่าชุมชนแห่งชาติ 2568 ขับเคลื่อนการจัดการป่าชุมชน หนุนสู่สังคมคาร์บอนต่ำตามเป้าหมาย Net Zero ของประเทศ

               วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิธีเปิดงาน “วันป่าชุมชนแห่งชาติ” ประจำปี พ.ศ. 2568 พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเครือข่ายป่าชุมชนทั่วประเทศ เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมปัตตาเวีย รีสอร์ท แอนด์ สปา
               ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 24 พฤษภาคม ของทุกปีเป็น “วันป่าชุมชนแห่งชาติ” ซึ่งเป็นกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนได้ร่วมกับรัฐในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู จัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืนในรูปแบบของป่าชุมชน ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเล็งเห็นถึงความสำคัญของ “ป่าชุมชน” ที่เป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้พี่น้องประชาชนได้มีความเป็นอยู่ที่ดี สามารถพึ่งพาตนเองและอยู่ร่วมกับป่าได้โดยการมีส่วนร่วมจากประชาชนและทุกภาคส่วนที่สนับสนุนให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือของภาคประชาชนในการบริหารจัดการป่าชุมชนร่วมกับภาครัฐ สร้างการเรียนรู้ ทำความเข้าใจ ก่อให้เกิดความเข้มแข็งในระดับพื้นที่ รวมถึงสามารถใช้ประโยชน์ทรัพยากรในป่าชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน การดำเนินงานของเครือข่ายป่าชุมชนถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ปกป้อง บำรุงรักษา ดูแลป่าชุมชนให้เกิดความสมดุลและยั่งยืนจนประสบผลสำเร็จ ทำให้ป่าชุมชนเป็นแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร แหล่งสมุนไพร รวมไปถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชน ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดจนจะเป็นประโยชน์ในการสนับสนุนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามที่ประเทศไทยได้แสดงเจตจำนงเป้าหมายในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี พ.ศ. 2608 (ค.ศ. 2065) และยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ให้เกิดประโยชน์เป็นมรดกส่งต่อให้แก่ลูกหลานในอนาคตต่อไป
               สำหรับการจัดงานวันป่าชุมชนแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ กำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 30-31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 โดยจะจัดกิจกรรมสำคัญประกอบด้วยการจัดกิจกรรมการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้กับเครือข่ายป่าชุมชน หน่วยงาน องค์กร ตลอดจนประชาชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของป่าชุมชน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การปลูกต้นไม้ การบำรุงรักษาป่าชุมชน การทำฝายชะลอน้ำ การลาดตระเวน การทำแนวกันไฟ เพื่อเป็นการสืบสานพระราชปณิธานในการดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรป่าไม้ ทำให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ โดยกิจกรรมหลักจัดขึ้น ณ โรงแรมปัตตาเวีย รีสอร์ท แอนด์ สปา จะมีกิจกรรมการบรรยายหัวข้อแผนการจัดการป่าชุมชน, ภาคีสนับสนุนงานป่าชุมชน, โอกาสการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถด้านป่าชุมชน ฯลฯ พร้อมทั้งเปิดเวทีอภิปราย “ความร่วมมือเสริมหนุนงานป่าชุมชนมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ : สระบุรีแซนด์บ็อกซ์” โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายป่าชุมชน ฯลฯ และนอกจากนี้จะมีการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในด้านการส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรป่าไม้ เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าอย่างสมดุลให้ป่าเป็นเสมือนฐานทรัพยากรด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์จากป่าตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นิทรรศการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้อย่างเหมาะสม นิทรรศการป่าชุมชนต้นแบบจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการใช้ประโยชน์จากผลผลิตหรือบริการจากป่าชุมชน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่มีความเชื่อมโยงกับป่าชุมชนที่ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการพัฒนาป่าชุมชน เพื่อสร้างรายได้ และสร้างแรงจูงใจในการเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการป่าชุมชน หรือขยายการจัดตั้งป่าชุมชนเพิ่มมากขึ้น
               ในโอกาสนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับหน่วยงานสนับสนุนการจัดกิจกรรมวันป่าชุมชนแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2568 และมอบโล่ให้กับเครือข่ายป่าชุมชนพร้อมทั้งพบปะพูดคุยกับกลุ่มเครือข่ายป่าชุมชนที่เข้าร่วมงาน

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”