รมว.ทส. เปิด “โครงการอนุรักษ์ทะเลไทย” ตามแนวพระดำริเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ มุ่งสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน

               วันที่ 19 มิถุนายน 2568 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการอนุรักษ์ทะเลไทยตามแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ณ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ จัดขึ้นโดย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงฯ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และนักเรียนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน
               โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสนองพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล ไม่ว่าจะเป็นแนวปะการัง สัตว์ทะเลหายาก ตลอดจนสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล พร้อมทั้งส่งเสริมบทบาทของประชาชนในการมีส่วนร่วมปกป้องระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งนับเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านการประมง การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
               ภายในงานมีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ภาคเอกชน ชมรม และอาสาสมัครที่มีบทบาทโดดเด่นในการอนุรักษ์ทะเลไทย ตลอดจนการจัดแสดงนิทรรศการจากหลากหลายหน่วยงาน เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยโครงการนี้เน้นย้ำความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชนท้องถิ่น อาสาสมัคร และเยาวชน ในการร่วมกันดูแลทะเลไทยให้คงความอุดมสมบูรณ์สืบไป

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ตัดสินการคัดเลือก ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ระดับประเทศ ครั้งที่ 1/2568

               วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568 กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดประชุมคณะกรรมการตัดสินการคัดเลือก ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ระดับประเทศ ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องประชุมกรรณิการ์ – ราชาวดี (303 – 304) ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มีนายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นคณะกรรมการ และมีผู้อำนวยการกองส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อกลั่นกรองผลงานของ ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ระดับประเทศ ประจำปี 2568 ใน 2 สาขา 7 ด้านผลงาน ทั้งประเภทบุคคล และประเภทเครือข่าย ประกอบด้วย สาขาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3 ด้านผลงาน ได้แก่ ด้านการจัดการทรัพยากรป่าไม้ และพื้นที่สีเขียว ด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ และด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ และสาขาการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 4 ด้านผลงาน ได้แก่ ด้านการจัดการขยะมูลฝอยเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้านการจัดการไฟป่า หมอกควัน และการเผาในที่โล่ง ด้านการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร และด้านการจัดการระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง รวมผลงานทั้งสิ้น จำนวน 135 ผลงาน ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบการกลั่นกรองผลงาน จำนวน 27 ผลงาน
               ทั้งนี้ คณะกรรมการตัดสินฯ จะได้ลงพื้นที่ประเมินผลงานเพิ่มเติม เพื่อประกอบการตัดสินการคัดเลือก ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ระดับประเทศ ประจำปี 2568 ต่อไป

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

Climate Change A-Z Challenge | Food Security ความมั่นคงทางอาหาร

Food Security : ความมั่นคงทางอาหาร “อาหารบนจาน…ก็ขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ! 🌏🍚 รู้จัก ‘ความมั่นคงทางอาหาร’ กัน”

รู้หรือไม่? ว่า “ความมั่นคงทางอาหาร” ไม่ใช่แค่มีข้าวให้กินทุกวัน แต่หมายถึง…
               ● อาหารดีมีคุณภาพ: มีอาหารที่ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
               ● มีอาหารเพียงพอทุกสถานการณ์: ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่น เศรษฐกิจไม่ดี หรืออากาศแปรปรวน
4 สิ่งที่ทำให้เรา “มั่นคง” เรื่องอาหาร:
               1. มีอาหารให้เลือกหลากหลาย : ทั้งที่ผลิตในประเทศ และนำเข้าจากต่างประเทศ
               2. ทุกคนเข้าถึงได้: ไม่ว่ารวยหรือจน ก็ต้องมีสิทธิกินอาหารดีๆ ได้
               3. กินอย่างปลอดภัย: อาหารสะอาด ถูกสุขอนามัย ไม่เป็นอันตราย
               4. มีกินตลอดไป: แม้เกิดภัยแล้ง น้ำท่วม หรือวิกฤตโลกร้อน
ทำไมอากาศเปลี่ยน…อาหารก็เปลี่ยน?
               ● ถ้าฝนไม่ตก ปลูกข้าวได้ไหม?
               ● ถ้าน้ำท่วม พืชผักเสียหายหรือเปล่า?
               ● อากาศร้อนจัด สัตว์เลี้ยงจะอยู่สบายไหม?
“อากาศ” มีผลต่อ “อาหาร” โดยตรง! ทั้งปริมาณ คุณภาพ และราคา เราต้องช่วยกันดูแลโลก เพื่อให้อาหารบนจานของเรา “มั่นคง” ตลอดไป

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

แหล่งที่มา :
– องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (NSM), Food Security (ความมั่นคงทางอาหาร)
– ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move : Moving Towards Sustainable Future), SDG Vocab | 04 – Food Security – ความมั่นคงทางอาหาร

DCCE เดินหน้าเวที UNFCCC ปี 2568 เน้นบทบาทไทยในเวทีโลกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ณ เมืองบอนน์

               เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะผู้แทนไทย ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมองค์กรย่อยภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประจำปี พ.ศ. 2568 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16 – 26 มิถุนายน 2568 ณ เมืองบอนน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดย Mr. Simon Stiell เลขาธิการสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้เน้นย้ำถึงการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกลไกความร่วมมือพหุภาคี (Climate multilateralism) อย่างต่อเนื่องและชัดเจน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของความตกลงปารีสอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมและแสดงให้เห็นว่าความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศสามารถสร้างความก้าวหน้าที่แท้จริงได้
               การประชุมครั้งนี้เน้นการเปลี่ยนจากแนวคิดนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง และมีสาระสำคัญของการประชุม ประกอบด้วย การจัดทำตัวชี้วัดเป้าหมายการปรับตัวระดับโลก กลไกสำหรับความสูญเสียและความเสียหาย แผนการดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม ผลกระทบที่เกิดจากการใช้มาตรการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลลัพธ์ของการทบทวนสถานการณ์และการดำเนินการระดับโลก การพัฒนาและถ่ายโอนเทคโนโลยี และแผนงาน Baku to Belem Roadmap to 1.3T นอกจากนั้น ประเทศไทยได้เข้าร่วมนำเสนอรายละเอียดของรายงานความก้าวหน้ารายสองปี ฉบับที่ 4 (BUR4) ในการประชุม The 18th Workshop of the Facilitative Sharing of Views (FSV) ในห้วงการประชุมองค์กรย่อยฯ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสริมสร้างความโปร่งใสในการรายงานข้อมูลของประเทศ

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

รมว.ทส. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมระบบ E-Ticket ณ อช. หาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ย้ำรายได้คืนสู่การอนุรักษ์ – สวัสดิการเจ้าหน้าที่

               วันนี้ (18 มิถุนายน 2568) ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เพื่อติดตามความคืบหน้าและทดสอบระบบบริหารจัดการนักท่องเที่ยวผ่านระบบ E-Ticket พร้อมให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงฯ ร่วมลงพื้นที่ฯ
               ดร. เฉลิมชัย รมว.ทส. เน้นย้ำว่า การนำระบบ E-Ticket มาใช้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการยกระดับการจัดการอุทยานแห่งชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาเงินรั่วไหล และการสวมสิทธิ์เข้าเที่ยวโดยไม่ชอบ “E-Ticket จึงไม่ใช่แค่ระบบจัดเก็บรายได้ แต่คือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาอย่างโปร่งใสและยั่งยืน โดยรายได้ที่จัดเก็บได้จะถูกนำกลับมาพัฒนาด้านสวัสดิการเจ้าหน้าที่ การบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
               ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายดำเนินการนำร่องระบบ E-Ticket ให้ครบใน 6 อุทยานแห่งชาติฝั่งอันดามัน ได้แก่ อุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี อุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน อุทยานฯ อ่าวพังงา อุทยานฯ ธารโบกขรณี และอุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2568 และภายในปี 2572 จะขยายผลให้ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติทั้งหมด 156 แห่งทั่วประเทศ
               ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวเลือกซื้อตั๋วเข้าชมผ่านระบบ E-Ticket ได้ทั้งทาง Mobile Application และเว็บไซต์ พร้อมทั้งสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิด หรือการสวมสิทธิเข้าเที่ยวอุทยานฯ ได้ที่สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

     

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะเพิ่มเติม โดยวิธีสอบสัมภาษณ์ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป (ปริญญาตรี)

17 มิถุนายน วันทะเลทรายและภัยแล้งโลก (Desertification & Drought Day)

               17 มิถุนายน วันทะเลทรายและภัยแล้งโลก (Desertification & Drought Day) : ภายใต้แนวคิด “Restore the Land. Unlock the Opportunities : ฟื้นฟูผืนดิน เปิดโอกาส สร้างอาชีพ”
               เพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับผลกระทบจากความเสื่อมโทรมของที่ดิน ภัยแล้ง และการแปรสภาพของที่ดินเป็นทะเลทราย ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเชื่อมโยงถึงความมั่นคงด้านอาหาร น้ำ เศรษฐกิจ และ การย้ายถิ่นฐาน
               โดยในปีนี้ วันทะเลทรายและภัยแล้งโลก (Desertification & Drought Day) มีเป้าหมายหลัก ในการเร่งดำเนินการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมของโลกกว่า 1.5 พันล้านเฮกตาร์ และกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการฟื้นฟูที่ดินมูลค่ากว่าล้านล้านดอลลาร์
ปัจจุบันความเสื่อมโทรมของที่ดินและภัยแล้งมีผลกระทบเป็นอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจ เสถียรภาพการผลิตอาหาร น้ำ และคุณภาพชีวิต
               🗺️ การฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมของโลก 938 ล้านไร่ ..
               ✅ สามารถเพิ่มความมั่นคงทางอาหารให้กับประชากรโลกถึง 200 ล้านคน
               ✅ สามารถสร้างงานสร้างอาชีพใหม่ได้ 60 ล้านตำแหน่งทั่วโลกได้ภายในปี 2573 เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรได้มากถึง 25-50 %
               ✅ สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ 3 พันล้านตันต่อปี
               🤝 ถึงเวลาแล้วที่เราจะร่วมมือกันเพื่อพลิกฟื้นแผ่นดินและขจัดความเสื่อมโทรมของที่ดินทั่วโลกให้หมดไป การมีส่วนร่วมของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต จึงเป็นสิ่งสำคัญในการหยุดยั้งและฟื้นฟูความเสื่อมโทรมของที่ดินที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก เพื่อตอบสนองตามพันธกรณีของโลก

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

แหล่งที่มา :
– กรมประชาสัมพันธ์, 17 มิถุนายน วันทะเลทรายและภัยแล้งโลก