Thailand Pavilion @ COP30 เปิดเวที ประเด็นเมือง–วิทยาศาสตร์-การจัดการน้ำ เสริมภูมิคุ้มกันโลกรวน

          เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และภาคีเครือข่าย ปิดเวทีเสวนาใน Thailand Pavilion @ COP30 ณ เมืองเบเล็ง สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ซึ่งวันนี้มีหัวข้อเสวนาที่น่าสนใจหลายหัวข้อ
          ช่วงเช้าเวลา 9.30 น. (เวลาบราซิล) เปิดเวทีในหัวข้อ “Cities in Motion: Climate, Migration, and the Future of Human Habitat” โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากวงการภูมิสถาปนิก มาร่วมแลกเปลี่ยนถึงบริบทของสังคมเมืองที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา และการอพยพย้ายถิ่นฐาน รวมถึงแนวโน้มถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในอนาคต สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ให้สังคมหมู่มากตระหนักถึงความสำคัญของการบรรเทาและการปรับตัวทางสภาพภูมิอากาศ “ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ควรถูกมองเป็นเรื่องเฉพาะหน้า แต่ควรได้รับการพิจารณาผ่านแนวทางเชิงพัฒนาแบบองค์รวม”
          ต่อเนื่องด้วยหัวข้อ “ASEAN & NL: Accelerating Nature-Based Solutions and International Water Collaboration” โดยผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านทรัพยากรน้ำ มาร่วมแลกเปลี่ยนถึงการเร่งยกระดับการใช้แนวทางที่อาศัยธรรมชาติ (Nature-based Solutions) สอดรับกับแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน อย่างกรณีศึกษาของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นประเทศผู้เชี่ยวชาญทางด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อนำไปต่อยอดปรับใช้ตามบริบทของแต่ละประเทศต่อไป “การใช้แนวทางที่อาศัยธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องใหม่หรือไกลตัวแต่อย่างใด แท้จริงแล้วเราสามารถต่อยอดจากภูมิปัญญาดั้งเดิม และแนวปฏิบัติในท้องถิ่นของเราได้อย่างแน่นอน”
          ในช่วงบ่าย เปิดเวทีในหัวข้อ “ “Bridging Science, Policy, and People for Farming and Agriculture Resilience: Advancing Multi-Hazard and Climate Resilient Development in a Changing Climate” โดยผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายหน่วยงานระหว่างประเทศ และกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มาร่วมเสวนาถึงบริบทการเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์และนโยบายไปสู่ภาคประชาชน เพื่อเสริมความยืดหยุ่นของภาคเกษตรกรรมเพื่อก้าวสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง เน้นย้ำถึงความสำคัญของยโยบายต่าง ๆ ที่ต้องสอดรับกับบริบทของผู้ปฏิบัติการจริงในระดับท้องถิ่นนั้น ๆ “จริงอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาเร่งด่วน แต่มันไม่มีทางลัดสำหรับการแก้ปัญหาดังกล่าว เราต้องอดทนพยายามและคิดอย่างรอบคอบในการแก้ปัญหา”
          สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการประชุม COP 30 และความเคลื่อนไหวใน Thailand Pavilion ได้ทาง Facebook กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้ทุกวันตลอดการประชุม
 “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”




ตารางราคากลางจ้างที่ปรึกษาพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลกลาง กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

ตาราราคากลาง จ้างที่ปรึกษาพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลกลาง

ข้อมูลสาระสำคัญในสัญญา (ใบสั่งจ้าง สลก.15/2569) จ้างตรวจเช็คและซ่อมบำรุงรถยนต์ส่วนกลาง จำนวน 5 คัน (บริษัท ดีดี คาร์เซอร์วิส จำกัด) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง

กรมลดโลกร้อน คว้ารางวัลระดับโลกสุดยิ่งใหญ่งาน ASOCIO Award 2025 ณ กรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)

          เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมและนายศิวัช แก้วเจริญ ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจก เข้าร่วมรับรางวัลในสาขา ASOCIO ESG Award ในงาน ASOCIO Award 2025 ณ กรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จากสมาพันธ์อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และบริการในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย (Asian-Oceanian Computing Industry Organization: ASOCIO) ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติที่รวมสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและบริการจาก 24 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย รางวัลอันทรงเกียรตินี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อยกย่องและเชิดชูผลงานขององค์กรที่มีความโดดเด่นและประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการพัฒนาองค์กรให้เกิดการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสังคม โดยมีสาขารางวัลที่หลากหลาย เช่น นวัตกรรมเทคโนโลยี การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การบริการภาครัฐ การพัฒนาบุคลากร ความยั่งยืน เป็นต้น ซึ่งกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมคว้ารางวัลสาขา ASOCIO ESG Award หรือสาขาความยั่งยืน จากผลงานการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางการให้บริการข้อมูลเปิดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย (GHG Platform) ซึ่งเป็นเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยจัดเก็บ รวบรวม เชื่อมโยงและให้บริการข้อมูลบัญชีก๊าซเรือนกระจกในระดับจังหวัด และระดับประเทศ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการข้อมูลด้านก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นระบบ ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสาธารณชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง โปร่งใส และนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมไปจนถึงการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลงานดังกล่าวนับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของกรมในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) และส่งเสริมการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมตามหลัก ESG เพื่อสร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
            “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

 

ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา จ้างปรับปรุงระบบติดตามประเมินผลการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง

ใบสั่งจ้าง กลก.012 (บ.ไพร์ม เซิร์ฟ จำกัด)