กรมลดโลกร้อน รับฟังความคิดเห็น ต่อแนวทางการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคบังคับ ครั้งที่ 2

          เมื่อ​วันพุธที่ 6 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อแนวทางการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคบังคับ ครั้งที่ 2 เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการประกาศบังคับใช้พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. โดยมอบหมายให้บริษัท เดอะ ครีเอจี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษา ดำเนินการร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการประชุมด้วยตนเอง ร่วมกับผู้เข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Meetings) จำนวนกว่า 300 คน
​          การประชุมครั้งนี้ได้นำเสนอความคืบหน้าในการพัฒนาระบบการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคบังคับ โดยมุ่งเน้นให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน ผ่านการนำเสนอและแลกเปลี่ยนมุมมอง รวมทั้งได้มีการรับฟังการชี้แจงประเด็นข้อสงสัย และรับทราบข้อจำกัดจากผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อนำไปใช้ประกอบการจัดทำ (ร่าง) กฎหมายลำดับรอง ให้มีความเหมาะสม เกิดประสิทธิภาพ และมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติร่วมกับกฎหมายอื่น โดยคำนึงถึงแนวทางที่จะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพของการประกอบธุรกิจควบคู่ไปกับการบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

 

กรมลดโลกร้อน บรรยายพิเศษ สร้างความพร้อมภาคธุรกิจ สู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืนในเวที Krungsri–MUFG Business Forum

          เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (กรมลดโลกร้อน) บรรยายพิเศษในงาน Krungsri – MUFG Business Forum ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอก คอนเวนชันเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ในหัวข้อ The Upcoming Thailand’s Climate Change Act โดยมี นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารระดับสูงเครือ MUFG และภาคธุรกิจที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย กว่า 600 คน รับฟังเกี่ยวกับสถานการณ์และแนวโน้มในการ ดำเนินธุรกิจท่ามกลางกระแสโลกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งรับทราบสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนทางการเงินเพื่อสร้างความพร้อมในการดำเนินธุรกิจ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไปสู่การปลดปล่อยคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

รายงานสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ปี 2567

ช่วงปี พ.ศ. 2533-2562 โลกเผชิญภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้นจากกิจกรรมมนุษย์ ทั้งก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นและอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบวงกว้างต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต ดังนั้น ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย จึงมุ่งลดก๊าซเรือนกระจก (mitigation) และปรับตัวจากผลกระทบเพื่อลดความสูญเสีย (adaptation) ประเทศไทยตั้งเป้าบรรลุจุดสูงสุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมของประเทศ ในปี พ.ศ. 2568 และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี พ.ศ. 2593 และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี พ.ศ. 2608 ผ่านนโยบายและมาตรการที่หลากหลาย ทั้งการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี การสร้างความตระหนัก และกลไกขับเคลื่อนต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายด้านการวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง เงินทุนสำหรับ SMEs การติดตามข้อมูลที่ครอบคลุม และการประเมินผลกระทบในทุกมิติการรับมือกับปัญหานี้จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน วิชาการ และประชาชน เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา ประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง สร้างความตระหนัก และสนับสนุนกลุ่มเปราะบาง รวมถึงใช้เครื่องมือและกลไกที่เหมาะสม เพื่อให้ประเทศไทยเป็นสังคมที่พร้อมรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างยั่งยืน (Climate Resilient)
🗞️ อ่านรายงานฉบับเต็มได้ทาง
ที่มา : รายงานสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ปี 2567
“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

ประกาศผู้ชนะการเสนอราคาประกวดราคาจ้างจัดแสดงนิทรรศการการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย ครั้งที่ 4 (Thailand Climate Action Conference : TCAC 2025) ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

กรมลดโลกร้อน จัดประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) เพื่อหารือต่อ (ร่าง) แนวทางการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย รายมาตรการหลัก ภายใต้ NDC 3.0

          กรมลดโลกร้อน จัดประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) เพื่อหารือต่อ (ร่าง) แนวทางการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย รายมาตรการหลัก ภายใต้ NDC 3.0
          เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับหน่วยวิจัยด้านพลังงานที่ยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมสรรค์สร้างแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) หารือต่อ (ร่าง) แนวทางการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย รายมาตรการหลัก ภายใต้ NDC 3.0 โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมฯ ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมจากหน่วยงานรับผิดชอบหลักรายสาขา (Sectoral focal point) หน่วยงานสนับสนุน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน จำนวนรวมกว่า 200 คน
การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะต่อ (ร่าง) แนวทางการเปลี่ยนผ่าน การดำเนินงานด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ในรายมาตรการหลัก ภายใต้ NDC 3.0 ใน 4 สาขา ได้แก่ สาขาพลังงานและขนส่ง สาขาของเสีย สาขากระบวนการทางอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ และสาขาเกษตร ซึ่งจะเป็นการกำหนดทิศทางและเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานด้านการลดก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจน ให้กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ NDC 3.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางประกอบการจัดทำแผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ (NDC Action Plan) ต่อไป
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน จับมือ ปตท.เสริมพลังความร่วมมือด้านวิจัย นวัตกรรม และการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้าน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทย

          กรมลดโลกร้อน จับมือ ปตท.เสริมพลังความร่วมมือด้านวิจัย นวัตกรรม และการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทย
          เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (กรมลดโลกร้อน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการดำเนินงานวิจัย นวัตกรรม และการพัฒนากลไกสนับสนุนเทคโนโลยีทางด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และความยั่งยืน ปตท. ร่วมเป็นประธาน ทั้งนี้ ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช และนายรัฐกร กัมปนาทแสนยากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ความยั่งยืนองค์กร ปตท. ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ พร้อมด้วยนายปวิช เกศววงศ์ และ นายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี รวมทั้งคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ข้อมูล งานวิจัย และนวัตกรรม ตลอดจนการพัฒนากลไกสนับสนุนเทคโนโลยีสำคัญ อาทิ โครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) เทคโนโลยีไฮโดรเจนและอนุพันธ์ของไฮโดรเจน และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยให้บรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) และร่วมกันขับเคลื่อนประเทศสู่ความยั่งยืนในระดับสากล
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”