ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (กองส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จำนวน 1 รายการ)

doc14562620251204094023

สส. จัดโครงการเรียนรู้เครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

กลุ่มงานจริยธรรม จัดโครงการเรียนรู้เครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อม ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste) บ้านจุลินทรีย์บ้านนี้มีรัก ตำบลบางสีทอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี โดย นายวัฒน์ ทาบึงกาฬ เลขานุการกรม นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมฝึกอบรมและศึกษาดูงานเครือข่ายรักษ์สิ่งแวดล้อม เรื่อง “แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงกับการจัดการขยะในครัวเรือน” พร้อมฝึกปฏิบัติฐานเรียนรู้ จำนวน 2 ฐาน มีผู้เข้าร่วมจำนวน 57 คน

กรมลดโลกร้อน – ก.ล.ต. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมหารือแนวทางซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance) ภายใต้ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

กรมลดโลกร้อน – ก.ล.ต. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมหารือแนวทางซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance) ภายใต้ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

          เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นายอัสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) ร่วมประชุมหารือแนวทางพัฒนาและกำกับกลไกการซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance) ภายใต้ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. พร้อมผู้แทนส่วนงานที่เกี่ยวข้องและบริษัท เดอะ ครีเอจี้ (ที่ปรึกษา)
          ที่ประชุมร่วมหารือในประเด็นสำคัญได้แก่ การพัฒนาและกำกับกลไกการซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ETS) ในร่างกฎหมาย พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. รูปแบบการซื้อขายสิทธิที่เหมาะสมรวมถึงการแลกเปลี่ยนมุมมองและประเด็นที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินหน้า ETS ระยะทดลอง (Pilot Phase) ในปี 2029 – 2030 และ ระยะที่ 1 (1st Phase) ในปี 2031–2035 โดยจะร่วมกันพัฒนากรอบกฎหมาย กลไกกำกับดูแลระบบซื้อขายสิทธิ การวางรากฐานตลาดคาร์บอนภาคบังคับของประเทศ ยกระดับระบบ ETS ของไทยให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในระยะยาว

          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน – ก.ล.ต. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมหารือแนวทางซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance) ภายใต้ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

กรมลดโลกร้อน – ก.ล.ต. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมหารือแนวทางซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance) ภายใต้ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

กรมลดโลกร้อน – ก.ล.ต. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมหารือแนวทางซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance) ภายใต้ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

กรมลดโลกร้อน – ก.ล.ต. – ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมหารือแนวทางซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Allowance) ภายใต้ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

กรมลดโลกร้อน ร่วมบรรยายในหัวข้อ “บริบทและการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของไทย” ในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68

กรมลดโลกร้อน ร่วมบรรยายในหัวข้อ “บริบทและการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของไทย” ในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68

 

          เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “บริบทและการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของไทย” ร่วมกับ ดร.ชญาน์ จันทวสุ (วปอ. 68) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68 ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร กรุงเทพฯ
          ดร.พิรุณ ได้กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์และแนวโน้มการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก พร้อมชี้ให้เห็นถึงความเร่งด่วนของวิกฤตภูมิอากาศ และความเปราะบางของประเทศไทยต่อเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว และสรุปประเด็นสำคัญจากการประชุม COP 30 อาทิ การจัดส่งเป้าหมาย NDC 3.0 ตัวชี้วัด ภายใต้เป้าหมายการปรับตัวระดับโลก (GGA) กลไกการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม (Just Transition) และทิศทางการขับเคลื่อน Roadmap ด้านการเงินภูมิอากาศ พร้อมกล่าวถึงความคืบหน้าของ (ร่าง) พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. ซึ่งจะเป็นกลไกหลักในการยกระดับการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศของประเทศ เพื่อก้าวสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำที่ยั่งยืน โดยยึดหลัก “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมบรรยายในหัวข้อ “บริบทและการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของไทย” ในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68

กรมลดโลกร้อน ร่วมบรรยายในหัวข้อ “บริบทและการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของไทย” ในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68

กรมลดโลกร้อน ร่วมบรรยายในหัวข้อ “บริบทและการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของไทย” ในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68

กรมลดโลกร้อน ร่วมบรรยายในหัวข้อ “บริบทและการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของไทย” ในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68

กรมลดโลกร้อน ร่วมบรรยายในหัวข้อ “บริบทและการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของไทย” ในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68

สุชาติ ชง ครม. ไฟเขียว ร่าง กฎหมายโลกร้อน ยกระดับประเทศไทยสร้างเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ เสริมภูมิคุ้มกันรับมือโลกเดือดอย่างยั่งยืน

           วันที่ 2 ธันวาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบต่อหลักการของร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. ซึ่งเป็นการวางรากฐานทางกฎหมายที่สำคัญฉบับแรกของไทยในการจัดการปัญหาโลกร้อนร่วมกับนานาชาติ ผ่านการสร้างกลไกบริหารจัดการผลกระทบของสภาพภูมิอากาศรุนแรงของภาครัฐร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเป็นทางการ รวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถทางการค้ารูปแบบคาร์บอนต่ำของไทยให้สอดคล้องกับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2093 (Net Zero 2050) ในเวทีโลก ส่งผลให้ไทยมีเครื่องมือและโอกาสในการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประเทศชาติและประชาชนเพื่อต่อสู้กับผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ร่างพระราชบัญญัติฯ มีบทบัญญัติ 14 หมวด 205 มาตรา และบทเฉพาะกาลซึ่งต้องเร่งรัดการดำเนินงานตามข้อสั่งการและนโยบายรัฐบาลของ นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยจะเร่งผลักดันกฎหมายเพื่อจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อให้ไทยมีเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อผลกระทบจากสภาพอากาศที่รุนแรงโดยประชาชนและภาคเอกชนจะมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายและแผน ขับเคลื่อนการดำเนินงาน ตลอดจนนำกลไกราคาคาร์บอน ทั้งการจัดสรรสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ETS) การปรับราคาคาร์บอนข้ามพรมแดน หรือ CBAM ภาษีคาร์บอน และคาร์บอนเครดิต มาใช้อย่างสมดุล รวมถึงการเร่งสนับสนุนทางการเงินผ่านกองทุนภูมิอากาศ เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสำหรับการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดผลกระทบจากความสูญเสียและเสียหายในภาพรวม รวมทั้งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านระบบเศรษฐกิจให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับต่ำจนมีความสามารถแข่งขันทางการค้าในระดับนานาชาติได้
ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติฯ ได้ออกแบบให้มีการบังคับและสนับสนุนให้ดำเนินการอย่างสมดุลเพื่อให้ก่อประโยชน์แก่ทุกภาคส่วนอย่างสูงสุด โดยได้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน จึงมั่นได้ใจว่าร่างพระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจนแล้วเสร็จโดยเร็ว ก่อนเสนอเข้าสู่กระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายของรัฐสภาเพื่อให้สามารถไปสู่การบังคับใช้ได้อย่างเร่งด่วนต่อไป
“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมบรรยายพิเศษในงาน “คืนสู่เหย้า 44 ปี สหสาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม จุฬาฯ

                 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นวิทยากรพิเศษบรรยายเชิงวิชาการ ภายใต้กิจกรรม “คืนสู่เหย้า 44 ปี สหสาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม จุฬาฯ” ในหัวข้อ “องค์กรจะปรับตัวภายใต้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างไร” ซึ่งจัดโดยบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ
ชมรมจุฬาฯ รักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านนโยบายการจัดการสิ่งแวดล้อมขององค์กรที่จำเป็น ต้องปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพถูมิอากาศ ณ ห้องประชุม 801 ชั้น 8 อาคารเฉลิมราชกุมารี 60 พรรษา (จามจุรี 10) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช ได้กล่าวถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ เทคโนโยลี และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความร่วมมือของประชาคมโลกภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC)พร้อมทั้งนำเสนอผลลัพธ์สำคัญจากการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาฯ สมัยที่ 30 (COP 30) อาทิ การจัดส่งเป้าหมาย NDC 3.0 เพื่อยกระดับความมุ่งมั่นในการลดก๊าซเรือนกระจก การจัดทำตัวชี้วัดเป้าหมายการปรับตัวระดับโลก (Global Goal on Adaptation)และกรอบ Baku to Belém Roadmap to 1.3T ซึ่งเป็นเป้าหมายในการระดมเงินทุนมูลค่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี ค.ศ. 2035 เพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มความสามารถในการปรับตัวฯ ทั้งนี้ ยังได้กล่าวถึงทิศทางนโยบายสำคัญในการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ภายในปี ค.ศ. 2050 รวมทั้งความก้าวหน้าในการจัดทำ (ร่าง) พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแบบปล่อยคาร์บอนต่ำโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในการนี้ ดร.พิรุณ ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของเยาวชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อร่วมออกแบบอนาคตของตนเองพร้อมทั้งวางรากฐานที่มั่นคงให้กับคนรุ่นต่อไป โดยมีนิสิตเก่า นิสิตปัจจุบันของหลักสูตรสหสาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมรับฟังการบรรยายจำนวนทั้งสิ้น 200 คน
“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

“กรมลดโลกร้อน” MOU “เวเธอร์นิวส์ อิงค์” ญี่ปุ่นเสริมศักยภาพการประเมินความเสี่ยงภูมิอากาศ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวของประเทศไทย

“กรมลดโลกร้อน” MOU “เวเธอร์นิวส์ อิงค์” ญี่ปุ่นเสริมศักยภาพการประเมินความเสี่ยงภูมิอากาศ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวของประเทศไทย

          วันที่ 2 ธันวาคม 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการเสริมสร้างศักยภาพการประเมินความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ระหว่าง กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดย นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้รับมอบหมายจาก ดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และ บริษัท เวเธอร์นิวส์ จำกัด โดยนายทาคามุเนะ ซูซุกิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยีสภาพภูมิอากาศ บริษัท เวเธอร์นิวส์ จำกัด และนายมาซาจิกะ นิชิบายาชิ ประธานกรรมการบริษัท เวเธอร์นิวส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นสักขีพยาน และได้รับเกียรติจากนางสาวยูริเอะ โอซาวะ เลขานุการเอกสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกล่าวแสดงความยินดี ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
          นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัจจุบันวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น โดยในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ประชาชนได้รับผลกระทบในวงกว้าง และจากข้อมูล Climate Risk Index (CRI) 2026 โดย Germanwatch ระบุว่า ในปี 2024 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น อยู่ในอันดับที่ 17 จากอันดับที่ 72 ในปี 2022 สะท้อนถึงความเปราะบางต่อเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วอย่างชัดเจน ส่วนความเสี่ยงระยะยาว 30 ปี อยู่อันดับที่ 22 จากอันดับที่ 30 ในปี 2022 แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงของไทยเพิ่มสูงขึ้นอีกทั้ง จากการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 30 (COP30) ณ เมืองเบเลง ประเทศบราซิล ได้เห็นชอบ “The Belem Adaptation Indicator” เป้าหมายการปรับตัวระดับโลก (GGA) ที่ประเทศภาคีสมาชิกใช้ในการกำหนดเป้าหมายด้านการปรับตัวให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ และรายงานผลการดำเนินงานในรายงาน global stocktake ปี 2028 ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ การประเมินและการพัฒนาข้อมูลความเสี่ยงของประเทศที่ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้
          ภารกิจด้านการพัฒนาและเผยแพร่ข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญต่อการกำหนดทิศทางและนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ โดยในปัจจุบัน กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม อยู่ระหว่างการพัฒนาศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม หรือ CCE Center เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลหลักด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ ที่เชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงศูนย์ประสานงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพของจังหวัด โดยหน้าที่ในการพัฒนาและเผยแพร่ข้อมูลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นหนึ่งในสาระสำคัญของ (ร่าง) พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ…..ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
          นายปวิช กล่าวต่อว่า กรมฯ มีความต้องการที่จะพัฒนาข้อมูลความเสี่ยงเชิงพื้นที่ที่มีความละเอียดขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานสำหรับการวางแผนด้านการปรับตัวทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่ โดยหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการจัดทำข้อเสนอโครงการด้านการปรับตัวฯ เพื่อขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เช่น GCF Adaptation Fund The Fund for responding to Loss and Damage (FRLD) ซึ่งในการพัฒนาข้อมูลความเสี่ยงเชิงพื้นที่ที่มีความละเอียดสูง จำเป็นต้องใช้ข้อมูลการคาดการณ์ภูมิอากาศที่มีความละเอียดสูง ด้วยความเชี่ยวชาญของบริษัทเวเธอร์นิวส์ อิงค์ ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาและให้บริการข้อมูลการคาดการณ์สภาพอากาศและภูมิอากาศเพื่อการเตือนภัยหรือเฝ้าระวัง จะช่วยสนับสนุน เสริมสร้างศักยภาพการประเมินความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยอย่างยั่งยืน

          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

“กรมลดโลกร้อน” MOU “เวเธอร์นิวส์ อิงค์” ญี่ปุ่นเสริมศักยภาพการประเมินความเสี่ยงภูมิอากาศ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวของประเทศไทย

“กรมลดโลกร้อน” MOU “เวเธอร์นิวส์ อิงค์” ญี่ปุ่นเสริมศักยภาพการประเมินความเสี่ยงภูมิอากาศ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวของประเทศไทย

“กรมลดโลกร้อน” MOU “เวเธอร์นิวส์ อิงค์” ญี่ปุ่นเสริมศักยภาพการประเมินความเสี่ยงภูมิอากาศ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวของประเทศไทย

“กรมลดโลกร้อน” MOU “เวเธอร์นิวส์ อิงค์” ญี่ปุ่นเสริมศักยภาพการประเมินความเสี่ยงภูมิอากาศ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวของประเทศไทย

“กรมลดโลกร้อน” MOU “เวเธอร์นิวส์ อิงค์” ญี่ปุ่นเสริมศักยภาพการประเมินความเสี่ยงภูมิอากาศ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวของประเทศไทย

“กรมลดโลกร้อน” MOU “เวเธอร์นิวส์ อิงค์” ญี่ปุ่นเสริมศักยภาพการประเมินความเสี่ยงภูมิอากาศ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวของประเทศไทย