3 เมืองต้นแบบของไทย คว้า “รางวัลอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมเมืองที่ยั่งยืน” สะท้อนศักยภาพการพัฒนาเมือง พร้อมรับปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน

         เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย พร้อมด้วยนายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นางสาวอุมา ศรีสุข ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมงาน The 18th ASEAN Ministerial Meeting on Environment (AMME-18) and 6th ASEAN Environmentally Sustainable Cities (ESC) Award and 5th Certificates of Recognition (COR) Ceremony ณ เมืองลังกาวี ประเทศมาเลเซีย โดยในการประชุมมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน สำนักเลขาธิการอาเซียน และติมอร์เลสเต เข้าร่วม โดยมี H.E.DR.Kao Kim Hourn เลขาธิการอาเซียน เป็นผู้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ และมี Hon.Datuk Seri Johari Abdul Ghani รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี
พิธีมอบรางวัลในครั้งนี้ มีผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทยที่มีศักยภาพในการพัฒนาเมือง ได้รับรางวัลอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมเมืองที่ยั่งยืน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ประเภทนำเสนอโดยประเทศ
         เทศบาลนครปากเกร็ด ที่มีการดำเนินการจัดการน้ำสะอาด น้ำเสีย ขยะ อากาศ และพลังงานอย่างครบวงจร พร้อมระบบเตือนภัยและการรับมือสภาพอากาศสุดขั้วอย่างยั่งยืน เพิ่มพื้นที่สีเขียว–ความหลากหลายทางชีวภาพในเมือง และติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองยั่งยืน
ประเภทแข่งขันที่ได้รับเกียรติบัตรแห่งการรับรอง ได้แก่
          เทศบาลนครหัวหิน : ได้รับรางวัลด้าน Clean Air โดยดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกด้วยพลังงานสะอาด รถไฟฟ้า และการจัดการขยะ พร้อมระบบเฝ้าระวังคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขยายพื้นที่สีเขียว จัดทำ Climate Action Plan และส่งเสริมโรงเรียน รวมถึงสถานประกอบการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
          เทศบาลเมืองทุ่งสง : ได้รับรางวัลด้าน Urban Biodiversity & Green Space โดยเป็นเมืองที่มีพื้นที่สีเขียวเฉลี่ย 175.24 ตารางเมตรต่อคน ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่สหประชาชาติกำหนด อีกทั้งยังมีพื้นที่ธรรมชาติครอบคลุมอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งพัฒนาฐานข้อมูล จัดทำ Green Map และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและเยาวชนในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
โดยทั้ง 3 เมืองที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย และสะท้อนถึงศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไทยในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประเทศสมาชิกอาเซียน พร้อมทั้งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการขยายเครือข่ายและสร้างแรงบันดาลใจแก่ อปท. ทั่วประเทศ ในการพัฒนาเมืองให้ก้าวสู่ความยั่งยืนต่อไป
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมลงพื้นที่ชายแดน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้พิทักษ์ป่า และมอบหนังสือทำกินในป่าอนุรักษ์ เพื่อการจัดการป่าและน้ำอย่างยั่งยืน

          วันที่ 28 สิงหาคม 2568 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมมอบหนังสือรับรองการอยู่อาศัยหรือทำกินในเขตป่าอนุรักษ์แก่ประชาชนในพื้นที
          การลงพื้นที่ครั้งนี้ ดร.เฉลิมชัย ได้มอบนโยบายและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์ความไม่สงบ พร้อมมอบเสบียงเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ตัวแทนกองกำลังสุรนารี นอกจากนี้ ยังได้เป็นประธานในพิธีมอบหนังสือรับรองการอยู่อาศัยหรือทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ตามมาตรา 64 และมาตรา 121 ให้แก่ผู้แทนประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
          ดร.เฉลิมชัย เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และต้องการให้พี่น้องประชาชนได้รับโอกาส รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการทั้งในมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยได้ดำเนินโครงการจัดหาแหล่งน้ำบาดาลระยะไกลเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ขาดแคลนน้ำหรือน้ำเค็ม เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปี และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะดำเนินการเจาะและพัฒนาบ่อน้ำบาดาลในพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสม พร้อมก่อสร้างระบบประปาบาดาลด้วยเทคโนโลยีการส่งน้ำบาดาลระยะไกล เพื่อส่งให้แก่พื้นที่เป้าหมายที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคต่อไป
           “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”





กรมลดโลกร้อน จัดประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุ์พืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ

          กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ครั้งที่ 1/2568 ในวันพุธที่ 27 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมอินทนิล (301) ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยมีดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานการประชุม และดร.ปิยรัษฎ์ ปริญญาพงษ์เจริญทรัพย์ เลขานุการคณะกรรมการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ได้กล่าวถึงแนวทางการดำเนินงาน อพ.สธ. ตามแผนแม่บท อพ.สธ.ระยะ ๕ ปีที่เจ็ด และกรอบการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ พร้อมให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
          การประชุมในวันนี้กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ตามกรอบการดำเนินงาน และกิจกรรมของ อพ.สธ.- สส. (เดือนตุลาคม 2567 – กันยายน 2568) พร้อมพิจารณา (ร่าง) แผนแม่บท อพ.สธ.ระยะ ๕ ปีที่แปด กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เชื่อมโยงกับเป้าหมายของ อพ.สธ.มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และเตรียมความพร้อมการจัดนิทรรศการในการประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ 12 หัวข้อ ทรัพยากรไทย : หวนดูทรัพย์สิ่งสินตน ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน จัดประชุมคณะกรรมการกำกับโครงการนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ (Climate Policy and Biodiversity Project) ครั้งที่ 2/2568

          เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จัดการประชุมคณะกรรมการกำกับโครงการนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ (Climate Policy and Biodiversity Project) ครั้งที่ 2/2568 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นประธาน และรองประธาน 3 คน ประกอบด้วย 1) นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม 2) นายทรงเกียรติ ตาตะยานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 3) Dr. Timo Menniken, Country Director of GIZ Thailand พร้อมด้วย Ms. Ebba Scholl, Minister, Deputy Chief of Mission, German Embassy Bangkok เข้าร่วมสังเกตการณ์
          โครงการ Climate Policy and Biodiversity Project เป็นโครงการความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระยะเวลาดำเนินการระหว่างปี พ.ศ. 2565 – 2570 มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการพัฒนา และขับเคลื่อนนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพของไทย โดยในการประชุมดังกล่าว มีการรับรองรายงานการประชุมฯ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินโครงการฯ ความร่วมมือกับโครงการอื่น ๆ และสรุปผลการประชุมเชิงนโยบายและคณะกรรมการกำกับโครงการความร่วมมือ ไทย – เยอรมัน (Policy Dialogue and Steering Committee Meeting on Thai – German Cooperation) เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ณ เมืองบอนน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รวมถึงเห็นชอบแผนการดำเนินโครงการฯ ในระยะถัดไป และพิจารณาให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเชื่อมโยงและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีความสอดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของประเทศต่อไป
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมแสดงความยินดีกับ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

          วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายปวิช เกศววงศ์ และนายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหาร และข้าราชการ ร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ในโอกาสที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2568ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้สักการะพระพุทธสยัมภู พระพุทธรูปประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยมีผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการจากหน่วยงานในสังกัด ทส. ร่วมมอบแจกันดอกไม้แสดงความยินดี และให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ชั้น 17 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมบรรยาย “Climate Change Policy Toward Net Zero” ในหลักสูตร วพน. รุ่นที่ 22

          เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “Climate Change Policy Toward Net Zero” ในหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน รุ่นที่ 22 (วพน.22) ณ ห้อง Synergy Hall ชั้น 6 อาคาร C ศูนย์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ กรุงเทพฯ จัดโดยสถาบันวิทยาการพลังงาน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องพลังงาน ความจำเป็นของพลังงานขั้นพื้นฐาน ตลอดจนขับเคลื่อนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศอย่างยั่งยืนดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช ได้บรรยายเกี่ยวกับ สถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มการดำเนินงานระดับโลกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขับเคลื่อนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสาระสำคัญของ (ร่าง) พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. อาทิ ข้อมูลก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ความท้าทายและเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกภายใต้ NDC 3.0 มาตรการและเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ภายใต้ร่าง พรบ. ที่จะช่วยในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อสร้างการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมแบบยั่งยืนและคาร์บอนต่ำ รวมทั้งตอบข้อซักถามในประเด็นต่างๆ เช่น การฟอกเขียว (greenwashing) การบังคับใช้พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ… และการรับรองมาตรฐานคาร์บอนเครดิตของประเทศไทย เป็นต้น โดยมีผู้บริหารระดับสูงและผู้นำจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน สื่อมวลชน และนักวิชาการ เข้าร่วมการอบรมจำนวน 96 คน
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

 

กรมลดโลกร้อน เปิดเวทีเผยแพร่และรับฟังข้อเสนอแนะต่อผลการศึกษา พัฒนาเครื่องมือติดตามประเมินผลการลดก๊าซเรือนกระจกระดับประเทศ

          เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดประชุมเพื่อเผยแพร่และรับฟังข้อเสนอแนะต่อผลการศึกษาโครงการจ้างที่ปรึกษาพัฒนาเครื่องมือติดตามการประเมินผลการลดก๊าซเรือนกระจกระดับประเทศ โดยมี นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดการประชุม และนายศิวัช แก้วเจริญ ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจก กล่าวรายงานความเป็นมาของโครงการ ณ ห้องประชุม Sapphire suite ชั้น 7 โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โปรแกรม Zoom Meeting มีผู้เข้าร่วมการประชุมจากหลายภาคส่วน ได้แก่ ผู้แทนจากหน่วยงานรับผิดชอบหลักรายสาขา หน่วยงานสนับสนุน ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา นักวิจัย และภาคประชาสังคม จำนวนรวม 200 คน การประชุมเผยแพร่ในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการประชุมได้รับฟังการบรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมการติดตามประเมินผลการลดก๊าซเรือนกระจกระดับประเทศ” โดย นางนิติภา วรพันธ์ตระกูล ผู้อำนวยการกลุ่มประเมินผลการลดก๊าซเรือนกระจก “แนะนำภาพรวมของโครงการและแนวทางการติดตามประเมินผลการลดก๊าซเรือนกระจกมาตรการเกณฑ์มาตรฐานและติดฉลากอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง” โดย รศ.วงกต วงศ์อภัย ผู้จัดการโครงการคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ “แนวทางการติดตามประเมินผลการลดก๊าซเรือนกระจก และมาตรการเกณฑ์มาตรฐานประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy Code) ของอาคาร” โดย รศ.ดร.นิติคำเมืองลือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะผลการศึกษาโครงการฯ จากผู้เชี่ยวชาญ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปปรับปรุงผลการศึกษาของโครงการให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วน
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน


กรมลดโลกร้อน ร่วมกับ GIZ อบรมเสริมศักยภาพโรงแรมของภูเก็ต เพื่อเข้าสู่ Green Hotel Plus Phuket Sandbox

          เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา นายโกเมศ พุทธสอน รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน ในงานอบรมเสริมศักยภาพผู้ประกอบการโรงแรมภายใต้โครงการ Green Hotel Plus Phuket Sandbox ณ ห้องประชุมภูเก็ต แกรนด์ บอลรูม โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นางสาวอุมา ศรีสุข ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานการจัดอบรมดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมและองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับสถานประกอบการโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง Thailand Taxonomy ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและสร้างความเข้าใจในเรื่องการขอรับรองตามมาตรฐาน Green Hotel Plus ภายใต้โครงการ Green Hotel Plus Phuket Sandbox ของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่การเป็น Green Destination ด้านการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของภูมิภาคอาเซียน
          “ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน เสริมบทบาทผู้นำองค์กรไทย ผ่านหลักสูตร Net Zero CEO Leadership Program รุ่น 2

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (กรมลดโลกร้อน) บรรยายพิเศษหลักสูตร Net Zero CEO Leadership Program รุ่น 2 โดยสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน และธนาคารกสิกรไทย จำกัด ณ ห้องอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ในหัวข้อ Climate Action & Commitment: From Global to Thailand Net Zero Mission โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคธุรกิจที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 60 คน เข้าร่วมรับฟังสถานการณ์แนวโน้มการดำเนินธุรกิจท่ามกลางปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้น รวมถึงทิศทางพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมในระดับนานาชาติ ที่เกี่ยวข้องกับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. …. เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านและขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปสู่การปลดปล่อยคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

กรมลดโลกร้อน ร่วมบรรยาย “ผลกระทบจาก Climate Change ที่ทุกภาคส่วนต้องเตรียมพร้อมรับมือ” ในหลักสูตร EEP รุ่นที่ 10

เมื่อวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “ผลกระทบจาก Climate Change ที่ทุกภาคส่วนต้องเตรียมพร้อมรับมือ” ในหลักสูตรพลังงานสำหรับผู้บริหาร รุ่นที่ 10 (Executive Energy Program : EEP) ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ ทั้งนี้ หลักสูตร EEP รุ่นที่ 10 จัดโดยสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจถึงความสำคัญของพลังงาน และการถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้ทรงคุณวุฒิให้กับผู้บริหารในภาคอุตสาหกรรม และกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ ที่คำนึงถึงการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีนักบริหารและผู้นำรุ่นใหม่จากองค์กรต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรม เข้าร่วมการอบรมจำนวน 85 คนโดย นายปวิช เกศววงศ์ ได้บรรยายเกี่ยวกับ สถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มการดำเนินงานระดับโลก ยุทธศาสตร์และทิศทางนโยบายของประเทศไทยต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Action) การผลักดันการดำเนินงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งในด้านการลดก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation) เช่น (ร่าง) พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ… แผนปฏิบัติการด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศปี พ.ศ. 2564 – 2573 แผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ และผลกระทบของประเทศไทยจากการปรับนโยบายของสหรัฐอเมริกา
“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”